xs
xsm
sm
md
lg

“แพลทินัม” ดันโปรเจกต์ฮับค้าส่งแฟชั่นอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “เดอะแพลทินัม” วางเป้าขยับเป็นฮับค้าส่งแฟชั่นอาเซียน พร้อมตั้งเป้าลูกค้าต่างชาติ 30% ในอีก 3-5 ปี ชี้กลุ่มซีแอลเอ็มวีมาแรง เร่งเสริมแกร่งพัฒนาโครงการต่างๆ เร่งเปิด “ตลาดนีออน มาร์เก็ต” ปี 60 และ “เดอะ มาร์เก็ต” ปี 61

นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายจะผลักดัน “เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ประตูน้ำ” ซึ่งเปิดบริการมากว่า 10 ปี ให้ขึ้นเป็นศูนย์กลางค้าส่งแฟชั่นของอาเซียนอย่างชัดเจนภายใน 3-5 ปีจากนี้ จากปัจจุบันที่มีความพร้อมอยู่แล้วและแทบจะไม่มีใครที่เป็นผู้นำทางด้านนี้อย่างชัดเจนในอาเซียนเลย โดยมีเพียงผู้ประกอบการไทยเท่านั้น

ปัจจุบันลูกค้าที่เข้าศูนย์ฯ วันธรรมดา 4.5 หมื่นคนต่อวัน และเพิ่มเป็น 6.5 หมื่นคนต่อวันในวันค้าส่งคือวันพุธกับวันเสาร์ โดยมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติประมาณ 10% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30% ในอนาคต โดยก่อนหน้านี้ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง แต่ปัจจุบันกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้น เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของลูกค้าต่างชาติ โดยล่าสุดกลุ่มลูกค้าซีแอลเอ็มวีเริ่มมาแรงมากขึ้นแล้ว

ปัจจัยที่จะทำให้ “เดอะ แพลทินัม” เป็นฮับอาเซียนจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรามีกลยุทธ์ดำเนินการตลอด เช่น การปรับปรุงพื้นที่ค้าส่ง การขยายพื้นที่ค้าปลีกในโครงการใหม่ๆ ที่จะเอื้อประโยชน์และต่อยอดจาก “เดอะ แพลทินัม” โดยผลักดันโครงการ “เดอะ แพลทินัม เอ็มเพาเวอร์ริ่ง เอสเอ็มอี 2” เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเอสเอ็มอีภายในศูนย์ฯ และก้าวสู่ฮับค้าส่งแฟชั่นอาเซียนให้ได้ โดยขณะนี้มีร้านค้าโครงการนำร่องแล้ว 20 ร้านค้า และจะมีอีก 40 ร้านค้า โดยต้องเป็นร้านที่มีแบรนด์สินค้า รวมถึงการดีไซน์และผลิตเอง

ส่วนโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการวางแผนยังมีต่อเนื่อง ทั้งการเจรจาเรื่องที่ดินทั้งในลักษณะซื้อ เช่า และเซ้ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนโครงการที่ดำเนินการอยู่ เช่น ตลาดนัดกลางคืน “ตลาดนีออน ดาวน์ทาวน์ ไนท์ มาร์เก็ต” ถนนเพชรบุรี ซอย 23-29 พื้นที่ 10 ไร่ มี 900 ร้านค้า ลงทุน 80 ล้านบาท เป็นการเช่าพื้นที่ 3 ปีและต่อได้ คาดว่า 1 ปีคืนทุน ส่วนอีกโครงการคือ “เดอะ มาร์เก็ต” ศูนย์การค้าปลีกขนาดใหญ่ ถนนราชดำริ พื้นที่ 1.7 แสนตารางเมตร มูลค่าลงทุน 5.8 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการปลายปี 2561

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยช่วง 9 เดือนปี 2559 มีรายได้รวม 1,381 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7% มีกำไร 523 ล้านบาท เติบโต 14% แบ่งสัดส่วนเป็นศูนย์การค้า 65% โรงแรมโนโวเทล 25% และอื่นๆ 10% โดยรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการเพิ่มของอัตราค่าเช่าพื้นที่บางส่วน โดยบริษัทฯ ทำสัญญาเช่าเหมาพื้นที่ส่วนกลางที่ให้บริการป้ายโฆษณาของนิติบุคคลอาคารชุดและนำมาบริหารจัดการเพื่อหารายได้จากการให้เช่าพื้นที่จัดงานและพื้นที่ป้ายโฆษณาในศูนย์ฯ โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์ฯ เฉลี่ย 99% ส่วนโรงแรมโนโวเทลมีรายได้เพิ่ม 13 ล้านบาทหรือ 5% มีอัตราการเข้าใช้ห้องพักเฉลี่ย 87% ส่วนราคาห้องพักจากเดิมไม่ถึง 2 พันบาท เพิ่มเป็น 2.9 พันบาทต่อคืน โดยในปี 2560 จะเพิ่มห้องพักอีก 5 ห้องเป็น 288 ห้อง



กำลังโหลดความคิดเห็น