PLAT คาดรายได้ปีนี้โตเป็นตัวเลข 2 หลัก เตรียมเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในปี 61 ซึ่งจะเน้นสินค้าที่มีความหลากหลาย
นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT) คาดว่า รายได้ปีนี้จะเติบโตในตัวเลข 2 หลักจากโครงการในธุรกิจเดิม โดยเฉพาะธุรกิจเช่าพื้นที่ ซึ่งสร้างรายได้ค่อนข้างมั่นคง เพราะมีผู้เช่าเกือบเต็มทุกพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งประมาณ 40% เป็นสัญญาเช่าระยะสั้นไม่เกิน 3 ปี จึงสามารถปรับราคาค่าเช่าได้ตามความเหมาะสมอยู่เสมอ ส่วนธุรกิจโรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างคึกคัก มีอัตราการเข้าพักที่ 86% ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่จะสนับสนุนรายได้บริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับความคืบหน้าโครงการ เดอะมาร์เก็ต บาย แพลทินัม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ บริเวณราชประสงค์ ปัจจุบันบริษัทเข้าไปปรับพื้นที่ และลงเสาเข็มไปแล้วเมื่อกลางเดือน ธ.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ศูนย์การค้ามีขนาดพื้นที่เช่ากว่า 41,000 ตารางเมตร และโรงแรม 4 ดาว ประมาณ 380 ห้อง โดยเมื่อต้นเดือน ม.ค.59 บริษัทได้ยื่นขออนุญาตแก้ไขดัดแปลงโครงการให้สามารถก่อสร้างได้เต็มพื้นที่ ด้วยการเพิ่มเติมการก่อสร้างอาคารสำนักงานออฟฟิศให้เช่า พื้นที่เช่า 30,000 ตารางเมตร หลังตลาดออฟฟิศใจกลางเมืองขยายตัวสูงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าภายในปี 61 ซึ่งสินค้าที่จะวางขายส่วนใหญ่จะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น อาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภายใต้แบรนด์คนไทย โดยจะรวมสินค้าจากตลาดที่เป็นที่รู้จักต่างๆ มารวมไว้ในศูนย์การค้าแห่งนี้
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 58 บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากปี 57 ซึ่งเป็นที่ปีบริษัทมีกำไรนิวไฮ โดยมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% โดยปัจจัยหลักที่ส่งเสริมอัตราการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่า ค่าบริการ และโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มั่นคง เนื่องจากบริษัทมีการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่รวมทั้งค่าบริการสำหรับสัญญาเช่า และบริการที่หมดอายุระหว่างปี และการปรับโซนพื้นที่ขายอาหารบางส่วนของศูนย์อาหารในโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดโครงการพื้นที่ให้เช่าแห่งใหม่ คือ โครงการ เอดะ วอร์ฟ สมุย ที่อำเภอ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในเดือน ม.ค.58 โดยรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทมาจาก 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ รายได้ค่าเช่าและบริการอยู่ที่ 1,018 ล้านบาท รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมอยู่ที่ 344 ล้านบาท รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 237 ล้านบาท พร้อมทั้งยังมีรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 169 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ในช่วงเดือน ส.ค.58 ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และพักอาศัยในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และยังได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจร้านค้า และศูนย์อาหารในโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอื่นบริเวณโดยรอบในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ภายหลังเหตุการณ์ต่างๆ ได้คลี่คลายลง นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยมากขึ้น จึงเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยว และพักอาศัยในบริเวณประตูน้ำ ราชประสงค์ และบริเวณใกล้เคียงตามปกติ
“ผลงานที่ออกมาถือว่าเป็นที่น่าประทับใจ โดยบริษัทมีรายได้จากการให้เช่าบริการปี 58 เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบปี 57 จากการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่ และปรับโซนอาหารของ เดอะแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เป็นพื้นที่เช่า เช่นเดียวกับรายได้โรงแรมที่เพิ่มขึ้น 38% หลังปัญหาการเมืองคลี่คลายลง ทำให้อัตราการเข้าพักอาศัยเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้อื่นของบริษัทเพิ่มขึ้น 215% จากการที่บริษัทนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นสามัญไปลงทุนในเงินฝากประจำ หลักทรัพย์เพื่อการค้า และตั๋วสัญญาใช้เงิน เนื่องจากอยู่ระหว่างการลงทุน” นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT) คาดว่า รายได้ปีนี้จะเติบโตในตัวเลข 2 หลักจากโครงการในธุรกิจเดิม โดยเฉพาะธุรกิจเช่าพื้นที่ ซึ่งสร้างรายได้ค่อนข้างมั่นคง เพราะมีผู้เช่าเกือบเต็มทุกพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งประมาณ 40% เป็นสัญญาเช่าระยะสั้นไม่เกิน 3 ปี จึงสามารถปรับราคาค่าเช่าได้ตามความเหมาะสมอยู่เสมอ ส่วนธุรกิจโรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างคึกคัก มีอัตราการเข้าพักที่ 86% ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่จะสนับสนุนรายได้บริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับความคืบหน้าโครงการ เดอะมาร์เก็ต บาย แพลทินัม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ บริเวณราชประสงค์ ปัจจุบันบริษัทเข้าไปปรับพื้นที่ และลงเสาเข็มไปแล้วเมื่อกลางเดือน ธ.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ศูนย์การค้ามีขนาดพื้นที่เช่ากว่า 41,000 ตารางเมตร และโรงแรม 4 ดาว ประมาณ 380 ห้อง โดยเมื่อต้นเดือน ม.ค.59 บริษัทได้ยื่นขออนุญาตแก้ไขดัดแปลงโครงการให้สามารถก่อสร้างได้เต็มพื้นที่ ด้วยการเพิ่มเติมการก่อสร้างอาคารสำนักงานออฟฟิศให้เช่า พื้นที่เช่า 30,000 ตารางเมตร หลังตลาดออฟฟิศใจกลางเมืองขยายตัวสูงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าภายในปี 61 ซึ่งสินค้าที่จะวางขายส่วนใหญ่จะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น อาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภายใต้แบรนด์คนไทย โดยจะรวมสินค้าจากตลาดที่เป็นที่รู้จักต่างๆ มารวมไว้ในศูนย์การค้าแห่งนี้
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 58 บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากปี 57 ซึ่งเป็นที่ปีบริษัทมีกำไรนิวไฮ โดยมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% โดยปัจจัยหลักที่ส่งเสริมอัตราการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่า ค่าบริการ และโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มั่นคง เนื่องจากบริษัทมีการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่รวมทั้งค่าบริการสำหรับสัญญาเช่า และบริการที่หมดอายุระหว่างปี และการปรับโซนพื้นที่ขายอาหารบางส่วนของศูนย์อาหารในโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดโครงการพื้นที่ให้เช่าแห่งใหม่ คือ โครงการ เอดะ วอร์ฟ สมุย ที่อำเภอ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในเดือน ม.ค.58 โดยรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทมาจาก 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ รายได้ค่าเช่าและบริการอยู่ที่ 1,018 ล้านบาท รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมอยู่ที่ 344 ล้านบาท รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 237 ล้านบาท พร้อมทั้งยังมีรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 169 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ในช่วงเดือน ส.ค.58 ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และพักอาศัยในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และยังได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจร้านค้า และศูนย์อาหารในโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอื่นบริเวณโดยรอบในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ภายหลังเหตุการณ์ต่างๆ ได้คลี่คลายลง นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยมากขึ้น จึงเดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยว และพักอาศัยในบริเวณประตูน้ำ ราชประสงค์ และบริเวณใกล้เคียงตามปกติ
“ผลงานที่ออกมาถือว่าเป็นที่น่าประทับใจ โดยบริษัทมีรายได้จากการให้เช่าบริการปี 58 เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบปี 57 จากการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่ และปรับโซนอาหารของ เดอะแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เป็นพื้นที่เช่า เช่นเดียวกับรายได้โรงแรมที่เพิ่มขึ้น 38% หลังปัญหาการเมืองคลี่คลายลง ทำให้อัตราการเข้าพักอาศัยเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้อื่นของบริษัทเพิ่มขึ้น 215% จากการที่บริษัทนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นสามัญไปลงทุนในเงินฝากประจำ หลักทรัพย์เพื่อการค้า และตั๋วสัญญาใช้เงิน เนื่องจากอยู่ระหว่างการลงทุน” นายชาญชัย กล่าว
