ผู้จัดการรายวัน 360 - ผังทีวีรวนช่วงเดือนแรกหลัง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต PPTV แจงคนไทยยังไม่พร้อมรับคอนเทนต์บันเทิง แนะรายการและโฆษณาต้องปรับคอนเทนต์ใหม่ คาดช่วงเดือนที่ 2 จะเห็นโฆษณามากขึ้น
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (BMB) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ PPTV HD ช่อง 36 เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ภาพรวมของสื่อโทรทัศน์ทุกช่องต่างพร้อมใจกันปฏิบัติตามปรับผังตามที่ภาครัฐกำหนด โดยในช่วง 1-3 วันแรกนั้นถือเป็นช่วงที่สถานีโทรทัศน์ โดยเฉพาะช่องทีวีดิจิตอลเกิดใหม่มีการปรับตัวมากกว่าปกติ ขณะที่ฟรีทีวีช่องเดิมในกลุ่มช่องโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือ ทรท. มีการปรับตัวได้เร็วกว่า
สถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ส่วนใหญ่ยังมีความไม่เข้าใจ หรือยังคงสับสนว่าจะต้องวางผังรายการอย่างไร หรือต้องปฏิบัติและนำเสนออย่างไร ทั้งหมดจึงอิงและเชื่อมสัญญาณไปกับ ทรท.เป็นหลัก แต่เมื่อรัฐบาลเริ่มให้สถานีโทรทัศน์แต่ละแห่งสามารถปรับเข้าผังของตัวเองได้ โดยต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนด เช่น งดรายการบันเทิง ละคร และกีฬาบางชนิด เช่น มวย เป็นต้น
“จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ได้หันกลับทบทวนตัวเองว่า คอนเทนต์ที่ควรนำเสนอในเวลานี้แทบจะไม่มี โดยส่วนใหญ่ต่างนำเสนอคอนเทนต์เดิมเป็นหลัก ขณะที่ในกลุ่มช่องบันเทิงที่มีรายการเพื่อความบันเทิงมากกว่า 60% เป็นช่องที่ต้องปรับตัวและหาคอนเทนต์มานำเสนอมากที่สุด จึงมองว่าอนาคตแต่ละช่องจะให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มากยิ่งขึ้น”
นายเขมทัตต์กล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา รายการข่าวถือเป็นรายการหลักที่แต่ละช่องนำเสนอได้ดีที่สุด โดยคอนเทนต์ข่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รองลงมาคือสารคดีที่เกี่ยวกับพระองค์ รวมถึงละครเฉลิมพระเกียรติในวาระต่างๆ ที่ผ่านมา ตลอดจนรายการกีฬาฟุตบอล ส่วนรายการอื่นๆ นั้นต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมตามสถานการณ์ โดยการนำเสนอละครในเวลานี้ถือว่าไม่เหมาะสมนัก อีกทั้งยังอาจจะถูกกระแสต่อต้านจากสังคมและประชาชน รวมถึงการนำคอนเทนต์แม่เหล็กมานำเสนอในช่วงที่ไม่มีโฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักของแต่ละสถานี จึงต้องเก็บคอนเท้นท์เหล่านี้ไว้ก่อนและมุ่งหา หรือผลิตคอนเท้นท์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์เป็นหลักแทน
“ในส่วนของโฆษณานั้น ความจริงแล้วลูกค้ายังสามารถลงโฆษณาได้ แต่อาจจะต้องปรับเนื้อหาและคัดกรองชิ้นงานที่จะลงโฆษณา จึงคาดว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนที่สองจะเริ่มเห็นรายการที่เป็นคอนเทนต์ใหม่ๆ รวมถึงโฆษณาในลักษณะของการน้อมถวายความอาลัยมากขึ้นหลังจากช่วงหนึ่งเดือนแรกต่างงดลงโฆษณา”
นายเขมทัตต์กล่าวต่อว่า ช่วงเวลานี้กลุ่มช่องบันเทิงอาจจะกระทบและต้องปรับตัวหาคอนเทนต์มานำเสนอ แต่สำหรับช่องข่าว เช่น PPTV ส่วนใหญ่เป็นรายการที่มีสาระมากกว่าบันเทิงจึงไม่มีผลกระทบมากนักและสามารถปรับตัวได้เร็ว พร้อมปรับผังรายการให้เป็นไปตามที่ภาครัฐกำหนด โดยเน้นนำเสนอข่าวเป็นหลัก โดยให้นักข่าวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และพูดคุยกับประชาชน รวมถึงงดรายการละคร แต่จะมีการนำเสนอละครเรื่อง “สี่แผ่นดิน”