“คมนาคม” เตรียมพร้อมบริการรองรับประชาชนเดินทางเข้าถวายบังคมพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท วันที่ 29-30 ต.ค.นี้ “อาคม” กำชับดูแลความปลอดภัยทุกโหมดขั้นสูงสุด โดยเฉพาะเรือโดยสารจัดเจ้าหน้าที่ประจำทุกท่า เผยประชาชนนิยมเดินทางมากเพราะสะดวก พร้อมสั่ง ขสมก.ถอนรถเมล์เส้นทางปกติ 10% เพื่อนำมาเสริมเส้นทางเข้าสู่สนามหลวง รวม 900 คัน คาดเพียงพอต่อเนื่องไม่รอนาน แนะใช้บริการรถสาธารณะเพื่อความสะดวก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมเพื่อเตรียมแผนรองรับการเดินทางและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนว่า จากที่สำนักพระราชวังกำหนดเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2559 ระหว่างเวลา 08.0-21.00 น. (ปิดบางช่วงเวลาที่มีพระราชพิธี) เป็นต้นไปนั้น คาดว่าจะมีประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางเข้ามายังสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ขณะที่กระทรวงคมนาคมได้เตรียมจัดบริการรถสาธารณะอย่างเต็มที่ โดยให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางสูงสุดในการให้บริการทุกโหมดเป็นอันดับหนึ่ง
โดยเฉพาะการเดินทางทางน้ำที่มีเส้นทางเรือที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าที่ท่าเรือสาทรมายังท่าเรือมหาราช ที่ผ่านมามีประชาชนใช้บริการทางน้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 22 ต.ค.มีผู้ใช้บริการเกือบ 2 แสนคน เนื่องจากการเดินทางด้วยเรือนั้นมีความสะดวกมาก เพราะเมื่อขึ้นจากท่าเรือมหาราชจะสามารถเดินไปถึงพระบรมมหาราชวังได้ทันที จึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าจัดเจ้าหน้าที่ประจำทุกท่าเรือเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก กำหนดให้ประชาชนคอยเรือบนฝั่งในอาคารที่พักผู้โดย ห้ามลงไปยังโป๊ะเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งเข้มงวดเรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกิน พร้อมกันนี้เรือตรวจการณ์ของกรมเจ้าท่าจะทำงานร่วมกับตำรวจน้ำ กองทัพเรือ ในการตรวจตราและดูแลความปลอดภัยตลอดลำน้ำ
ทั้งนี้ วันที่ 29 ต.ค.นี้จะมีการปิดจราจรเต็มรูปแบบ ห้ามรถส่วนบุคคลเข้าไปในพื้นที่สนามหลวงเด็ดขาด โดยจะเปิดเส้นทางให้รถ ขสมก. โดยได้มอบหมายให้ ขสมก.จัดรถเพิ่มเติมโดยตัดรถจากเส้นทางต่างๆ ประมาณ 10% เพื่อเข้ามาวิ่งเสริมกับรถที่ให้บริการเพื่อให้ประชาชนเดินทางเข้าไปในสนามหลวงได้สะดวกและมีรถเพียงพอต่อเนื่อง สำหรับรถที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดนั้นได้จัดจุดจอดรถสี่มุมเมือง และมีจุดจอดตามห้างสรรพสินค้า และอาคารจอดรถของ รฟม.อีกด้วย ดังนั้นขอความร่วมมือในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด
โดยมีรถ Shuttle Bus รับจากจุดเชื่อมต่อสี่มุมเมือง-สนามหลวง ประกอบด้วย เมืองทองธานี จอดรถได้ 5,000 คัน, เซ็นทรัล พระราม 2 จอดรถได้ 3,700 คัน, เซ็นทรัล ศาลายา จอดรถได้ 1,800 คัน, ลานพุทธมณฑลสาย 4 จอดรถได้ 5,000 คัน และตลอดเส้นทางของถนนกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทจะมีจุดบริการเพื่อเป็นจุดแวะพักตลอดเส้นทาง พร้อมกันนี้ได้กำชับกรมการขนส่งทางบกส่งผู้ตรวจการณ์ กรมฯ ตรวจการให้บริการวินจักรยานยนต์ และการให้บริการแท็กซี่ในช่วงดังกล่าวด้วย
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแนวทางในการจัดแผนรับประชาชนในการเดินทางให้ได้รับความสะดวกในช่วงเสาร์ 29 ต.ค.ถึงอาทิตย์ 30 ต.ค.นี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ การเดินทางทางน้ำได้รับความนิยมจากประชาชนมากโดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำทุกท่าเพื่อดูแลความปลอดภัยและดูแลความสะดวก ควบคุมจัดระเบียบ และมีผู้ประกอบการช่วยเดินเรือจากท่าสาทร-ท่าช้าง, ท่าเขียวไข่กา-ท่าพระปิ่นเกล้า โดย ขสมก.ได้จัดเดินรถ ขสมก.เส้นทางใหม่ เชื่อมจากบางซื่อมายังท่าเรือเขียวไข่กาด้วย
โดย ขสมก.ได้จัดรถเมล์ที่วิ่งเข้าสู่สนามหลวงไว้จำนวน 200 คัน สำรองอีก 100 คัน สามารถเรียกเสริมได้ นอกเหนือจากรถที่มีวิ่งให้บริการประจำเดิมอยู่แล้วจำนวน 600 คัน รวมมีรถ ขสมก.ประมาณ 900 คัน โดยเป็นรถเมล์ฟรี 17 สาย และเป็นรถ Shuttle Bus รองรับประชาชนได้อย่างเพียงพอ ประเมินว่าจะมีประชาชนใช้บริการกว่า 2 แสนคนต่อวัน โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมามีประชาชนใช้บริการรถเมล์ 2.4 แสนคน นอกจากนี้ยังมีรถร่วมบริการเอกชนอีก 100 กว่าคัน ประเมินภาพรวมเพียงพอ เพียงแต่ต้องจัดการด้านจราจรไม่ให้ติดขัด
“ตอนนี้จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะเดินทางเข้ามายังสนามหลวงให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นหลัก โดยเฉพาะรถ ขสมก.ซึ่งได้มีการจัดเตรียมไว้จำนวนมากเพียงพอ โดยในวันที่ 29 ต.ค.นี้จะมีการปิดการจราจรตั้งแต่แยก จปร.-สนามหลวง จะเปิดให้เฉพาะรถเมล์เข้าพื้นที่ไปจอดที่ 4 จุด คือ 1. บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ 2. พื้นที่บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน 3. พื้นที่บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า และ 4. พื้นที่บริเวณฝั่งตรงข้ามกองสลากเก่า ส่วนกรณีที่มีประชาชนเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากจะประเมินขยับจุดจอดรถออกมา”
สำหรับรถไฟฟ้า MRT 5-7 นาที/ขบวน และอาจจะมีการตัดขบวนให้สั้นลง ส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ปรับความถี่จาก 15 นาที เหลือ 12 นาที/ขบวน โดยจะมีการบริการ Shuttle Bus จากหัวลำโพงมายังสนามหลวง
