xs
xsm
sm
md
lg

“เซ็นทารา” ทบทวนแผน 5 ปี ชี้เทรนด์โรงแรม 2-4 ดาวมาแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ “เซ็นทารา”
ผู้จัดการรายวัน 360 - เครือ “เซ็นทารา” มั่นใจท่องเที่ยวไทยปี 60 เดินหน้าต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยกลุ่มเออีซี ส่งผลธุรกิจโรงแรมต่ำกว่า 4 ดาวขยายตัวเพิ่มขึ้น เน้นสอดรับไลฟ์สไตล์ด้านความสะดวกสบายในระดับมาตรฐานมากกว่าความหรูหรา เลื่อนเปิดโรงแรมระดับ 2 ดาวแบรนด์ใหม่ “โคซี่” เป็นช่วงกลางปี 60 พร้อมทบทวนแผนลงทุน 5 ปี ขยายโรงแรม 125-130 แห่ง เหตุเผชิญปัจจัยลบทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือ “เซ็นทารา” เปิดเผยว่า การเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ได้มีผลกระทบต่ออัตราการเข้าพักและการจัดประชุมสัมมนาของโรงแรมในเครือแต่อย่างใด ยกเว้นการจัดเลี้ยงซึ่งจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้เป็นไปอย่างเรียบง่ายเพื่อเป็นการร่วมแสดงความอาลัย ซึ่งนักเดินทางต่างชาติส่วนใหญ่ต่างเข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างดี

สำหรับทิศทางด้านการเติบโตของภาวะการท่องเที่ยวไทยในปี 2560 ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การลงทุนด้านโรงแรมที่พักจะยังคงเป็นไปตามความต้องการของตลาด โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมีการเติบโตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ กลุ่มประเทศอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา เป็นต้น ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนจะยังคงมีการเติบโตเช่นเดิม แม้จะมีผลกระทบจากปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อยเท่านั้น เพราะนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มอื่นๆ จะเข้ามาทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (Foreign Individual Tourism : FIT)

“การเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศอาเซียนในประเทศไทยทำให้คาดการณ์ได้ว่ารูปแบบการลงทุนของธุรกิจโรงแรมจะเป็นในลักษณะโรงแรมราคาประหยัด หรือ Budget Hotel ในระดับ 2-4 ดาวมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่ต้องการความสะดวกสบายและมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับมาตรฐานมากกว่าความหรูหราในระดับ 5 ดาวขึ้นไปซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุโรปและสหรัฐอเมริกา” นายสุทธิเกียรติกล่าวในที่สุด
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ “เซ็นทารา”
ด้าน นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ “เซ็นทารา” เปิดเผยว่า เครือ “เซ็นทารา” มีโรงแรมและรีสอร์ต 6 แบรนด์ ภายใต้ชื่อ เซ็นทารา แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท, เซ็นทารา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท, เซ็นทารา เรสซิเดนส์ แอนด์ สวีท, เซ็นทารา บูติค คอลเลกชั่น, เซ็นทรา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท และโคซี่ รวมทั้งสิ้น 66 แห่ง มีจำนวนห้องพักรวม 14,110 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย 43 แห่ง มีจำนวนห้องพัก 8,901 ห้อง และต่างประเทศ 23 แห่ง ได้แก่ เวียดนาม, มัลดีฟส์, ศรีลังกา, อินโดนีเซีย, การ์ตา, โอมาน, ลาว, ตุรกี และจีน มีจำนวนห้องพัก 5,209 ห้อง

ในจำนวนโรงแรมทั้งหมด 66 แห่ง ปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 37 แห่ง แบ่งเป็นการลงทุนของเครือ “เซ็นทารา” 15 แห่ง นอกนั้นอีก 22 แห่งเป็นในลักษณะการบริหารจัดการและการซื้อธุรกิจ โดยในปี 2560 มีแผนเปิดโรงแรมใหม่อย่างน้อย 5 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 2 แห่งและต่างประเทศ 3 แห่ง เริ่มตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 ซึ่งจะเปิดโรงแรม “โคซี่” ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

“โรงแรมโคซี่ มีลักษณะเป็นโรงแรมราคาประหยัด มาตรฐาน 2 ดาว ขนาด 150 ห้อง ถือเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดของเครือเซ็นทารา เน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่มีรายได้ปานกลาง ชื่นชอบความสะดวกสบายในราคาปานกลางและนิยมจองห้องพักออนไลน์ โดยเครือเซ็นทาราใช้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท โดยก่อนหน้านั้นมีแผนเปิดให้บริการภายในปี 2559 แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการก่อสร้างจึงต้องเลื่อนกำหนดการออกไป”

นายธีระยุทธกล่าวด้วยว่า ตามแผนลงทุน 5 ปี (2558-2562) ซึ่งมีเป้าหมายการเพิ่มจำนวนโรงแรมเป็น 125-130 แห่ง อาจจำเป็นต้องมีการทบทวนและปรับลดจำนวนลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ยังคงจะเน้นการลงทุนหลักในกลุ่มประเทศอาเซียนและตะวันออกกลางเช่นเดิม พร้อมปรับสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 40% ในประเทศ 60% จากปัจจุบันที่มีรายได้ต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80%

สำหรับปี 2559 เครือ “เซ็นทารา” คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 9 พันล้านบาท เติบโตประมาณ 5-6% แบ่งสัดส่วนรายได้เป็นห้องพักประมาณ 70% ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มและจัดเลี้ยง 30% โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80% คิดเป็นคนไทย 20% ต่างประเทศ 80% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่รัสเซียซึ่งในอดีตเคยมีการเติบโตสูงแต่ต้องชะลอตัวลงหลังจากที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศจนปัจจุบันเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง โดยประเทศที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นคืออังกฤษและเยอรมนีซึ่งมีอัตราการเติบโต 3% อย่างต่อเนื่อง



กำลังโหลดความคิดเห็น