รองนายกรัฐมนตรี เผยบินจีน 12-14 ต.ค.คุยวัฒนธรรมท่องเที่ยว พบประธานไชน่าเนชันแนลทัวริซึม ถกท่องเที่ยว ชูชาวจีนแขกคนสำคัญที่จะดูแลอย่างดีเหมือนชาติอื่น ชี้พวกที่มาไทย 80% ไม่มีปัญหา ยันจัดการทัวร์ศูนย์เหรียญไม่ได้ทำนักเที่ยวลด เชื่อจะได้ประโยชน์ในอีก 10-15 ปี
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนำคณะเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดนักท่องเที่ยวไทยในจีน ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้ ว่าจะพูดคุยเรื่องวัฒนธรรม ท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่แน่นแฟ้น และจะพบประธานไชน่าเนชันแนลทัวริซึม CNTaA ซึ่งเทียบแล้วเท่ากับรัฐมนตรีท่องเที่ยว ดูแลรับผิดชอบการท่องเที่ยวทั้งหมดของประเทศจีน นอกจากนี้จะประชุมเกี่ยวกับเรื่องโรดโชว์การท่องเที่ยวซึ่งมีผู้ประกอบการของจีนและไทยเข้าร่วม ทั้งนี้เราจะยืนยันกับจีนว่าจีนเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิดกันมายาวนาน และเราก็ถือว่าชาวจีนที่มาเที่ยวบ้านเรานั้น เป็นแขกคนสำคัญที่เราจะดูแลเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ส่วนปัญหาเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ทำให้คนจีนได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่นั้น ไทยมีการจัดระเบียบให้นักท่องเที่ยวจีนได้รับประโยชน์เต็มที่ โดยรัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ ในทุกระดับและจะพัฒนาการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และมองว่านักท่องเที่ยวจีนที่มาเป็นนักท่องเที่ยวในไทยมีคุณภาพกว่า 60% อีก 20% ไม่มีปัญหา แต่อีก 20% หลังมีปัญหาเรื่องศูนย์เหรียญบ้าง
เมื่อถามว่า มีเสียงจากผู้ประกอบการว่ามาตรการจัดการทัวร์ศูนย์เหรียญทำให้ทัวร์จีนลดลงหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ดูจากยอดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 20% ในบางพื้นที่อาจจะหายไปบ้าง แต่ยังมากกว่าปีที่แล้ว ยืนยันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดกัน และทางกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ความดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งมัคคุเทศก์ ผู้ประกอบการ และรถทัวร์ขนส่งนักท่องเที่ยว
เมื่อถามว่า กลุ่มที่หาผลประโยชน์จากทัวร์ศูนย์เหรียญในบ้านเราจะหนักกว่าที่คิดหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ทุกประเทศเป็นแบบนี้ แต่ประเทศเราให้ความสำคัญเพื่อให้คนที่มาเที่ยวได้รับคุณภาพแบบคับแก้ว ไม่ใช่มาเที่ยวแล้วถูกเอาเปรียบและถูกทิ้ง อย่างไรก็ตาม ต่อไปปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป แต่ต้องค่อยๆ ทำไปจนกว่าจะหมดไป มั่นใจว่าการแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ จะเป็นไปตามเป้าและจะได้ประโยชน์ในอนาคตอีก 10-15 ปี ทั้งนี้การท่องเที่ยวไทยกำลังดีขึ้น เห็นจากการที่สภาการท่องเที่ยวโลกออกมาระบุว่าเรามีความมั่นคงแม้จะมีเหตุระเบิดบ้างแต่การท่องเที่ยวยังสามารถเดินไปได้ และประเทศไทยก็จะเตรียมการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตไว้เป็นอย่างดี