ผู้จัดการรายวัน 360 - “แพนเค้ก” ท้าชนโคเรียคิง จับมือ “ลักกี้เวย์” ส่งกระทะ “สตาร์ คิทเช่น” สู้ หวัง 3 เดือนแรก 50 ล้านบาท และตลอดปี 60 อีก 200 ล้านบาท ฟากลักกี้เวย์มั่นใจกลยุทธ์ “พรีเซ็นเตอร์” ช่วยรายได้ปี 60 ทะลุ 400 ล้านบาท จากปีนี้ปิดที่ 300 ล้านบาท
นายฉี ลี่ฉิน ผู้บริหาร บริษัท ลักกี้เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ลักกี้เวย์ดำเนินธุรกิจค้าส่งสินค้าในครัวเรือนและชีวิตประจำวันโดยการนำเข้าจากประเทศจีนเป็นหลักมาทำตลาดในไทยกว่า 14 ปี มีทั้งโอลด์แบรนด์ และผลิตตามออเดอร์ลูกค้า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มโฮลเซลเช่นกัน ทั้งในตลาดสำเพ็ง หรือช่องทางค้าปลีกอย่าง บิ๊กซี ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในไทยรวมกว่า 10,000 รายการ ประกอบด้วย 7 กลุ่มสินค้าหลัก คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย กิฟต์ชอป เตรื่องเขียน เครื่องมือช่าง เครื่องครัว และเครื่องเป่าผม รวมถึงสินค้าแบรนด์ intex จากอเมริกา โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ถือเป็นสินค้าหลักที่ทำรายได้หลักบริษัทกว่า 60-70% ปัจจุบันมีอยู่ 5 แบรนด์ คือ มังกร, ดราก้อนคิง, เพชร, Suoka และล่าสุดกับแบรนด์สตาร์คิทเช่น”
อย่างไรก็ตาม พบว่าปีนี้ตลาดเครื่องครัวแข่งขันดุเดือดโดยเฉพาะกระทะ แต่ยังเป็นสินค้าที่ครองใจคนไทยอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่าตลาดรวมน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันแบรนด์เกาหลีกำลังได้รับความนิยมสูงมาก มีอยู่ 5-6 แบรนด์ที่รุกตลาดในขณะนี้ เช่น โคเรียคิง เป็นต้น บวกกับคนไทยหันมาให้ความสำคัญต่อสุขภาพ อาหารการกิน การเลือกใช้เครื่องครัวที่ดีจึงมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพ และกระทะถือเป็นถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ช่วยดูแลสุขภาพในขั้นตอนการประกอบอาหารได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าตลาดจะมีการเติบโตที่ดีในอนาคต
ล่าสุดบริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรม คือ กระทะ สตาร์คิทเช่น (Star Kitchen) ราคา 1,590 บาท/ชิ้น ด้วยเทคโนโลยีเคลือบอิโนเบิล ที่มีโครงสร้างของอนุภาคเล็กๆประกอบกันเป็นจำนวนมาก สามารถประกอบอาหารโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบประกอบอาหาร และรักสุขภาพเข้ามาทำตลาด ด้วยงบการตลาดกว่า 20 ล้านบาท และได้ “แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” มาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ และพรีเซ็นเตอร์ คาดว่าในช่วง 3 เดือนนี้จะทำยอดขายได้กว่า 50 ล้านบาท และต้นปี 60 ตั้งเป้ารายได้ 200 ล้านบาท ผ่านช่องทางจำหน่ายหลัก คือ (1. Call center 0-2416-1113 (2. แค็ตตาล็อกฟรายเดย์ (3. ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต และตัวแทนจำหน่ายอีกกว่า 3,000 คนทั่วประเทศ
“ปีนี้ถือเป็นปีที่บริษัทฯ ลงทุนด้านการตลาดสูงสุด รวมถึงเป็นครั้งแรกในการสร้างแบรนด์ด้วยการใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ และเป็นครั้งแรกที่ดำเนินธุรกิจแบบพาร์ตเนอร์ โดยการแบ่งรายได้รวมกัน เชื่อว่าจะทำให้รายได้มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากปกติโตปีละ 50% หรือในปีก่อนปิดที่ 150 ล้านบาท สิ้นปีนี้หากรวมกระทะสตาร์คิทเช่นเข้ามาอีก 50 ล้านบาท จะมีรายได้รวมเป็น 300 ล้านบาท และในปีหน้าเพิ่มเป็น 400 ล้านบาทได้”
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาลักกี้เวย์เป็นบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจากจีนเป็นหลัก ภายใต้ชื่อ CSC98 รวม 7 กลุ่ม ได้แก่ และล่าสุดเริ่มนำเข้าสินค้าเครื่องครัวจากเกาหลี คือ กระทะเคลือบผงเพชร ตรามังกร เน้นจำหน่ายผ่านโซเชียลมีเดีย ตัวแทนจำหน่าย และทางทีวี โฮมชอปปิ้ง ตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้เปิดร้าน CSC98 สาขา ตลาดนัดจตุจักร และมีนบุรี เป็นศูนย์กระจายสินค้าทั้งปลีกและส่งด้วย
นางนวลนง จามิกรณ์ เจ้าของบริษัท เบบี้โรส จำกัด ที่เป็นพันธมิตรกล่าวเสริมว่า การจับมือกับทางลักกี้เวย์ในการร่วมกันจำหน่ายกระทะสตาร์คิทเช่นถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะทางลักกี้เวย์ถือเป็นบริษัทที่มีสินค้านำเข้ามากมายต่อปีไม่ต่ำกว่า 1,000 รายการ และมีช่องทางจำหน่ายมากมายจะช่วยต่อยอดการทำธุรกิจในอนาคตได้ เพราะนอกจากกระทะสตาร์คิทเช่นแล้วอาจจะมีสินค้าอื่นๆ ที่จะลงทุนและใช้จุดแข็งของลักกี้เวย์ช่วยทำตลาดและจัดจำหน่ายด้วย เช่น แบรนด์เสื้อผ้า เบบี้โรส เป็นต้น บวกกับทาง “แพนเค้ก” เองมีฐานแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศ และตนมีคนรู้จักมากมาย คาดว่าจะช่วยสร้างยอดขายได้ดีขึ้น ซึ่งภายในปีหน้าจะเริ่มรุกตลาดในพม่าและกัมพูชา ผ่านทางทีวี โฮมชอปปิ้งต่อไป
“กระทะโคเรียคิง” ทุ่มงบไม่อั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กระทะแบรนด์โคเรียคิง ที่ทำตลาดในไทยมาก่อนหน้านี้และกลายเป็นโคเรียคิงฟีเวอร์ไปช่วงหนึ่งแล้วนั้น นำเข้ามาจำหน่ายโดย บริษัท วิซาด โซลูชั่น จำกัด ด้วยระบบการขายผ่านช่องทางระบบโฮมช้อปปิ้ง โดยมี บริษัท มิโดริ มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบวางแนวทางการทำตลาดและการวางแผนด้านสื่อ โดยมี “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” รับบทเป็นเป็นพรีเซ็นเตอร์จนโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง โดยโคเรียคิงจำหน่ายราคาประมาณหลักพันบาท เจาะกลุ่มแมสเป็นหลัก
กลยุทธ์หลักอย่างหนึ่งคือ การโหมโฆษณาผ่านสื่อ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อทีวี ที่ใช้มากถึง 80% ในช่วงแรก ผ่านฟรีทีวีเป็นหลัก เน้นช่วงไพรม์ไทม์ เพื้อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วและกว้าวขวางมากที่สุด ส่วนงบอีก 20% เป็นงบทางสื่อออนไลน์ ผสมผสานกับการทำโรดโชว์ในสถานที่ต่างๆ
สำหรับงบโฆษณาที่โคเรียคิงทุ่มไม่อั้นนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2559 พบว่า เดือนมกราคม ใช้ไป 137 ล้านบาท, เดือนกุมภาพันธ์ ใช้ไป 136 ล้านบาท, เดือนมีนาคม ใช้ไป 140 ล้านบาท, เดือนเมษายน ใช้ไป 142 ล้านบาท, เดือนพฤกษภาคม ใช้ไป 146 ล้านบาท และเดือนอื่นๆ ก็ทุ่มงบโฆษณาไม่ต่ำกว่าหลักร้อยล้านบาท ล่าสุดเดือนกันยายนก็ยังใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้นเป็น 170 กว่าล้านบาท ขึ้นอันดับแบรนด์ที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด แซงหน้าโตโยต้า นมดูเม็กซ์ด้วยซ้ำไป
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปี 2559 นี้ พบว่าโคเรียคิงใช้งบรวมแล้ว 1,352 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันปี 2558 ที่ใช้เพียงแค่ 16 ล้านบาทเท่านั้นเอง และยังติดอันดับงบโฆษณาสูงสุดด้วย แซงหน้า โค้ก ที่ใช้รวม 760 ล้านบาท, โตโยต้าที่ใช้ไปประมาณ 670 ล้านบาท และเทสโก้ โลตัส 630 ล้านบาท