“กรมการค้าต่างประเทศ” จับมือเอกชนตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยที่ จ.ปทุมธานี ช่วย SMEs เจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV พร้อมดันตั้งคลังและศูนย์กระจายสินค้าตามแนวชายแดนเพื่อขายสินค้าให้เพื่อนบ้าน ก่อนรุกต่อไปเปิดในประเทศเพื่อนบ้าน คาดช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าได้เพิ่มขึ้นแน่
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับภาคเอกชนไทยในการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่ จ.ปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ เพื่อให้เป็นตลาดกลางสำหรับการนำสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) มาวางจำหน่าย และกระจายเข้าสู่ตลาดภายในภูมิภาค โดยจะเน้นตลาดประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และลาว) เป็นอันดับแรก โดยไม่เพียงแต่จะช่วยให้ SMEs มีที่ค้าขายออกสู่ตลาดเพื่อนบ้าน แต่ยังช่วยในการขยายการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย
“ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสแรกปี 2561 โดยจะเปิดให้ SMEs มาเช่าพื้นที่แสดงสินค้า และจะมีการประสานผู้ซื้อจาก CLMV ให้มาเลือกซื้อสินค้า เพราะอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง บินมาแล้วไปเลือกชอปได้เลย ซื้อเสร็จมีบริการลอจิสติกส์จัดส่งสินค้าให้ ซึ่งจะช่วยขยายการค้าไทยกับเพื่อนบ้านได้อีกมาก” นายอดุลย์กล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะผลักดันให้มีการจัดตั้งคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าตามแนวชายแดน เพื่อเป็นจุดรวบรวมสินค้าและอำนวยความสะดวกให้แก่ SMEs ได้มีช่องทางกระจายสินค้าเข้าไปจำหน่ายในตลาด CLMV ผ่านชายแดนได้สะดวกและง่ายขึ้น โดยล่าสุดกรมฯ ได้สนับสนุนบริษัทไทยจัดตั้งคลังสินค้าดังกล่าวตามแนวชายแดนไทย-พม่าแล้ว และจะขยายไปยังแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นต่อไป
ขณะเดียวกัน มีแผนจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ขณะนี้มีผู้ประกอบการไทยร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า City Square ซึ่งเป็นห้างใหม่แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองตองยี รัฐฉาน พม่าที่กำลังจะเปิดในเดือน พ.ย.นี้ และได้เปิดพื้นที่ภายในห้างให้เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าไทย ซึ่งจะช่วยในการกระจายสินค้าไทยเข้าสู่รัฐฉานและเมืองต่างๆ ของพม่า และล่าสุดมีผู้ประกอบการไทยกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยที่กรุงพนมเปญด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยภาคเอกชนขอให้รัฐบาลอนุญาตให้รถบรรทุกของประเทศเพื่อนบ้านวิ่งเข้ามาขนส่งสินค้าในไทยจนถึงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจคลังสินค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ มีการขยายตัว และช่วยให้การค้าขยายตัว ซึ่งกรมฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนไทยที่รวมการค้าชายแดน การค้าผ่านแดน และการค้าเมืองหน้าด่วน ในช่วง 8 เดือน ของปี 2559 (ม.ค.-ส.ค.) อยู่ที่ 0.94 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนทั้งปีคาดว่าจะมีมูลค่า 1.47 ล้านล้านบาท ขยายตัว 4.9-5% แม้จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ 1.7 ล้านล้านบาทได้ แต่ยังเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท โดยส่วนแบ่งการค้าชายแดนไทยกับมาเลเซียมากที่สุดที่ 49% ตามด้วยลาว 20% พม่า 19% และกัมพูชา 12%