xs
xsm
sm
md
lg

PwC เผยรายได้ปี 59 เฉียด 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - PwC ทั่วโลกเผยปี 2559 รายได้เฉียด 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เหตุได้รับอานิสงส์ตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น ปี 60 เล็งลงทุนด้านเทคโนโลยีหวังช่วยเสริมคุณภาพในการให้บริการที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อสนองความต้องการลูกค้าในยุคดิจิตอล ด้าน PwC ประเทศไทยเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้ในธุรกิจตรวจสอบบัญชีเช่นกัน

นายโรเบิร์ต อี มอริตซ์ ประธาน บริษัท Pricewaterhouse Coopers International Ltd หนึ่งในเครือข่ายบริษัทผู้ให้บริการด้านตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาด้านภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของเครือข่าย PwC ทั่วโลกรอบปีงบประมาณ 2559 (งบการเงินสิ้นสุด ณ 30 มิถุนายน 2559) มีรายได้รวม 35,896 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.25 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากรอบปี 2558 ที่มีรายได้ 35,356 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเพิ่มขึ้น 7.3% (ตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่) โดยรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากธุรกิจตรวจสอบบัญชี

“รายได้ของบริษัทที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกสายธุรกิจและทุกตลาดสำคัญในปีนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงคุณภาพในการให้บริการ ความไว้วางใจของลูกค้าที่ให้เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ PwC” นายมอริตซ์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานแยกตามประเภทธุรกิจในปี 2559 พบว่าธุรกิจตรวจสอบบัญชี (Assurance) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทสร้างรายได้ถึง 15,280 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโต 6.4% จากปีที่ผ่านมา ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและแรงกดดันทางด้านราคาของธุรกิจตรวจสอบบัญชีทั่วโลก โดยบริการตรวจสอบบัญชีให้แก่ลูกค้าในกลุ่มตลาดทุนยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน PwC ได้พัฒนาคุณภาพบริการโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการบริการด้านบัญชี เช่น ความเสี่ยงด้านไอที การประกันข้อมูล เป็นต้น

ส่วนธุรกิจที่ปรึกษา (Advisory) ในปีนี้สร้างรายได้ 11,531 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้นจากปีก่อน 8.3% โดยความต้องการบริการด้านที่ปรึกษาในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การตรวจสอบทุจริต และการควบรวมยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี ดิจิตอล และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เป็นผลมาจากการลงทุนด้านดิจิตอลเพิ่มขึ้นของ PwC ในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ธุรกิจด้านภาษี (Tax) ปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 7.4% มาแตะที่ระดับ 9,085 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลพวงมาจากตลาดการควบรวมกิจการที่เติบโต รวมไปถึงความต้องการด้านที่ปรึกษาในการปฏิบัติตามหลักภาษี และการตั้งราคาโอน (Transfer pricing) ของกิจการข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลงทุนเพิ่ม-ใส่ใจเทคโนโลยี
นายมอริตซ์กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา PwC ได้ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบไอที ไซเบอร์ซิเคียวริตี การประกันและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตลาดทุน และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วโดยเน้นคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ จากนั้นในปี 2559 เครือข่าย PwC ทั่วโลกยังใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐในการเพิ่มคุณภาพและส่งมอบบริการที่ดีให้ลูกค้า

PwC มุ่งเน้นในการวางกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านการตรวจสอบบัญชีและภาษีที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป งานธุรกิจที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่อิทธิพลของดิจิตอลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตลอดจนการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือนมาประยุกต์ใช้ ซึ่งทั้งหมดต้องสอดรับกับเป้าหมาย (Purpose) ในการสร้างความเชื่อมั่นและแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้าและสังคมส่วนรวม

“บุคลากร” ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ในปีที่ผ่านมา เครือข่าย PwC ได้จ้างบุคลากรทั่วโลกจำนวนทั้งสิ้นถึง 58,081 คน ในจำนวนนี้เป็นบัณฑิตจบใหม่ถึง 26,780 คน ทำให้ปัจจุบัน PwC มีจำนวนพนักงานในเครือข่ายทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 223,000 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานในภูมิภาคเอเชีย ยุโรปกลาง และยุโรปตะวันออก ขณะที่มากกว่าครึ่งของบัณฑิตจบใหม่ที่จ้างนั้นเป็นผู้หญิง นอกจากนี้ยังมีหุ้นส่วนหน้าใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งในปีนี้จำนวน 665 ราย โดยจำนวนของผู้หญิงที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหุ้นส่วนยังเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สาม โดยปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนถึง 27% ของหุ้นส่วนหน้าใหม่ทั้งหมด

“จำนวนหุ้นส่วนผู้หญิงที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ รวมทั้งอัตราส่วนของผู้นำหญิงในทีมผู้นำเครือข่าย PwC ที่สูงเป็นประวัติการณ์สะท้อนให้เห็นว่า PwC เป็นองค์กรที่ส่งเสริมความหลากหลายของบุคลากร ซึ่งเรามีพัฒนาการที่ดีในด้านนี้มาโดยตลอด และจะยังผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าต่อไป เพราะเราเชื่อว่าความแตกต่างทั้งทางเพศ เชื้อชาติ ภาษา และประสบการณ์ที่หลากหลายของพนักงานแต่ละคนจะช่วยทำให้เราส่งมอบงานคุณภาพให้แก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น” นายมอริตซ์กล่าว

นอกจากนี้ PwC ยังให้ความสำคัญต่อการตอบแทนสังคมและประเทศชาติ ไม่เพียงแต่ลูกค้า หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยในปี 2559 เครือข่าย PwC ทั่วโลกร่วมกันบริจาคเงิน 63 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่กิจกรรมเพื่อสังคม และอุทิศเวลา 820,000 ชั่วโมง เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบริการที่ตนมีความชำนาญเพื่อเป็นการกุศลแก่องค์กรต่างๆ
นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย
PwC ประเทศไทย เตรียมพัฒนาธุรกิจตรวจสอบบัญชี
ด้าน นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วน บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า เอเชียถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ผลักดันให้รายได้ของ PwC เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยเอเชียมีอัตราการเติบโตของรายได้สูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้นถึง 10.3% มาอยู่ 4,391 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากผลการดำเนินงานของเครือข่าย PwC ประเทศจีนและอินเดีย

รองลงมาคือเครือข่าย PwC ในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกรายได้เติบโต 10% ตามด้วยทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้รายได้เพิ่มขึ้น 9.4% ส่วนทวีปอเมริกาเหนือและแคริบเบียนอยู่ในอันดับสี่เติบโตเกือบ 8% โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จาก PwC สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด ขณะที่รายได้จากทวีปตะวันออกกลางและแอฟริกาเติบโต 7% ทวีปยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้น 5.9% และทวีปออสเตรเลียและหมู่เกาะแปซิฟิกเติบโต 5.3%

สำหรับ PwC ประเทศไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้รวมของเครือข่ายในปีนี้เติบโตอย่างโดดเด่น ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น นั่นเพราะความมุ่งมั่นในการคงคุณภาพบริการและยึดมั่นในความเป็นมืออาชีพซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน ทำให้ลูกค้าไว้วางใจเลือกใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และเราเชื่อมั่นว่ารายได้ในปีหน้าจะเติบโตจากปีนี้เช่นกัน

“PwC ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อนำเข้ามาช่วยในด้านงานตรวจสอบบัญชี เพื่อรองรับความความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก สวนทางกับจำนวนผู้สอบบัญชีในตลาดที่มีจำนวนไม่เพียงพอ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าในยุคดิจิตอลอีกด้วย” นายศิระกล่าวในตอนท้าย



กำลังโหลดความคิดเห็น