ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ไทยเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% เหตุบริโภคได้ทั้งผู้ป่วยและผู้รักสุขภาพทั่วไป “ไทยโอซูก้า” สบจังหวัดทุ่ม 650 ล้านบาทเปิดโรงงานแห่งที่ 2 เพิ่มกำลังผลิตอีก 4 เท่า พร้อมใช้งบฯ 50 ล้านบาท เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Once Pro” ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 59 หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาด 22% เป็น 32% ใน 5 ปี
นายชินซึเกะ ยุอาสะ ประธาน บริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำบริษัทยาจนสามารถสร้างยอดขายติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทยาชั้นนำในประเทศไทย โดยมีการผลิตน้ำเกลือภายใต้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพของ “โอซูกะ” ประเทศญี่ปุ่น พร้อมขยายการผลิตอาหารทางการแพทย์ขึ้นเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยและมีการเติบโตอย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นในอัตรา 10% ของแต่ละปี
ผลิตภัณฑ์ด้านอาหารทางการแพทย์กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก เนื่องจากอาหารทางการแพทย์คืออาหารที่ได้มีการทดลองและศึกษาถึงประสิทธิภาพที่ใช้ได้ในคนปกติและผู้ป่วยโรคต่างๆ โดยมีผลการศึกษาและทดลองที่ชัดเจนซึ่งยืนยันได้ว่ามีผลดี ปลอดภัย และเหมาะสมต่อผู้ป่วยมากกว่าอาหารเสริม ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายทั้งใน และต่างประเทศกว่า 2 พันล้านบาท
นายชินซึเกะกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตอาหารทางการแพทย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับแพทย์ไทยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสนองตอบลูกค้าเป็นอย่างดี จึงส่งผลให้ขณะนี้กำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุดจึงใช้งบประมาณ 650 ล้านบาทลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า แบ่งเป็นสร้างอาคาร 250 ล้านบาท และการพัฒนาเครื่องจักร และการค้นคว้าวิจัยอีก 400 ล้านบาท โดยยังคงใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระบบบริหารจัดการเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“อาหารทางการแพทย์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลายกลุ่ม โดยไม่จำเป็นเฉพาะกลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ป่วยโดยเฉพาะ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคตับ หรือแม้แต่ผู้ป่วยเด็กที่มีระบบการดูดซึมบกพร่อง และกลุ่มรองของอาหารทางการแพทย์ยังสามารถใช้ได้กับบุคคลทั่วไปซึ่งมีการยืนยันว่าได้ผลดี มีองค์ประกอบและสารอาหารที่ครบถ้วน เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่เร่งรีบในแต่ละวันอาจรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ โดยอาหารทางการแพทย์นี้สามารถเข้าไปช่วยทดแทนสารอาหารที่ขาดหายไป และสะดวกต่อผู้บริโภคในแต่ละรายให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี”
ด้าน นายธนัญ สันตโยดม ประธานกรรมการ ตัวแทนผู้บริหารฝ่ายกรรมการ บริษัทไทย โอซูก้า จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่บริษัทฯ ได้สร้างโรงงานผลิตอาหารทางการแพทย์ในประเทศไทยถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นในการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ทั้งยังส่งผลให้มีการจ้างงานในประเทศมากขึ้น โดยในอนาคตจะส่งเสริมการใช้วัตถุดิบในไทยมากขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของซัปพลายเชนด้วย
“ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ในทุกปี บริษัทฯ จึงตั้งเป้าไว้ว่าหลังจากก่อสร้างโรงงานใหม่เรียบร้อยแล้วจะสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 20% หรือประมาณ 300 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2559 เป็นไปตามแผน 5 ปีที่บริษัทกำหนดเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 32% จากปัจจุบัน 22%”
นายธนัญกล่าวด้วยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 บริษัทฯ จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “Once Pro” โดยใช้งบประมาณการตลาด 50 ล้านบาทสำหรับส่งเสริมการตลาดทั้งการโฆษณาและประชาสัมพันธ์อย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักอย่างแพร่หลายในวงกว้างมากขึ้น โดยจะเน้นการสร้างการรับรู้ให้เข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น พร้อมเพิ่มการวิจัยและพัฒนาในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยและผู้บริโภคทั่วไปให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย