“ไอ.ซี.ซี.” ใช้หุ่นยนต์เป็นนักขาย “ซีทีฯ” เร่งผลิตป้อน “ไทย-ตปท.”

ผู้จัดการรายวัน 360 - ไอ.ซี.ซี.ชูเทคโนโลยีดันหุ่นยนต์นักขายเข้าชอป ประเดิมร้านแอร์โรว์ ยันไม่ปรับลดพนักงานขาย ด้าน “ซีทีฯ” ผู้ผลิตและพัฒนาเร่งผลิตและเจาะตลาดแมส แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายทั้งในไทย และต่างประเทศ

นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ ไอ.ซี.ซี. ช่วง 8 เดือนแรกปี 2559 นี้ ถือว่าอยู่ในภาวะปกติทรงๆ ไม่ได้เติบโตอะไรมาก โดยแบรนด์ที่เติบโตยังคงเป็นแบรนด์หลัก เช่น บีเอสซี วาโก้ แอร์โรว์ เป็นต้น และมั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรใกล้ 1,000 ล้านบาท หรือใกล้เคียงปีที่แล้วที่มีเกือบ 700 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกนี้มีกำไรแล้วประมาณ 600 กว่าล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวแล้ว

ล่าสุดบริษัทฯ จะนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้เป็นสีสันและสร้างอารมณ์ในการจับจ่ายให้แก่ลูกค้า รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการทำการขายด้วย เพราะมีความสามารถหลายอย่างตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ เช่นพูดได้ 5 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น การอธิบายรายละเอียดสินค้าและบริการ เบื้องต้นร่วมมือกับทาง ไอ.ซี.ซี.ใช้กับร้านแอร์โรว์ สาขาเทอร์มินัล 21 เป็นหุ่นยนต์ตัวใหญ่ ราคาประมาณ 100,000 บาทต่อตัว เริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะขยายไปยังแบรนด์อื่นและชอปอื่นในเครือซึ่งมีมากกว่า 200 สาขาทั่วไทย แต่ต้องพิจารณาตามความหมาะสม เช่น ขนาดพื้นที่ร้าน ทำเลที่ตั้ง และความสอดคล้องกับตัวสินค้า

จากนี้เตรียมที่จะนำมาใช้กับแบรนด์เครื่องสำอางบีเอสซี แต่เป็นหุ่นยนต์ตัวเล็กราคาประมาณ 85,000 บาท

“เรายังไม่ได้วางงบประมาณว่าจะต้องใช้เท่าไร หรือต้องใช้หุ่นยนต์กี่ตัว เพราะเน้นการพัฒนาและดูความเหมาะสมไปเรื่อยๆ และคงต้องดูประสิทธิผลด้วยว่าเอามาใช้แล้วเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้มากน้อยแค่ไหน สร้างสีสันในการขายได้มากไหม แต่ยืนยันว่าเรายังคงใช้พนักงานขายเหมือนเดิม ซี่งมีมากกว่า 6,000 คน ไม่ได้มีการปรับลดและพนักงานก็ไม่ได้ขาดแคลน เพียงแต่เราต้องปรับตัวตามโลกเทคโนโลยี ซึ่งการพัฒนานักขายให้พูดได้หลายภาษามันต้องใช้เวลานานมาก”

นายเฉลิมพล ปุณโณทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีที เอเซีย โรโบติกส์ จำกัด เปิดเผยว่า ใช้เวลามากกว่า 6 ปีวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ ใช้งบไปไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทแล้ว มีการร่วมมือและสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ เช่น สวทช. สกว. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นต้น ล่าสุดได้พัฒนาเรียบร้อยชื่อ “ดินสอ” เป็นเวอร์ชันที่ 4 แล้ว ซึ่งจะมีการทำตลาดแมสและองค์กรทั้งในและต่างประเทศ โดยเป็นการผลิตเองมีบางส่วนที่ว่าจ้างโรงงานอื่นผลิต มีทีมงานกว่า 80 คน

เบื้องต้นนี้คงต้องมุ่งมั่นและเน้นการผลิตเพื่อป้อนกับทาง ไอ.ซี.ซี.เป็นหลักก่อน ซึ่งที่ผ่านมาเราเป็นผู้ซัปพลายเรื่องระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้กับ ไอ.ซี.ซี.อยู่แล้ว

หุ่นยนต์ที่ผลิตได้มี 4 อาชีพตามที่วางโปรแกรมซอฟต์แวร์ไว้และสามารถสื่อสารกับคนได้ คือ 1. โปรแกรมทำงานตามงานอีเวนต์ทั่วไป 2. โปรแกรมเสิร์ฟอาหาร ซึ่ง 5 ปีที่แล้วก็ทำกับเอ็มเคสุกี้ และมีการขายให้กับร้านอาหารที่สวีเดน จำนวน 15 ตัว 3. โปรแกรมดูแลผู้สูงอายุ ที่ขายไปให้ทางญี่ปุ่นจำนวน 500 ตัวแบบเล็ก และ 4. ล่าสุดคือ โปรแกรมงานขาย ที่ทำกับทาง ไอ.ซี.ซี.

ขณะนี้เราเริ่มในแง่การตลาดแล้ว คือ การแต่งตั้งบริษัทเฟรนด์โต๊ะที่ญี่ปุ่นให้เป็นผู้ดูจำหน่ายที่ญี่ปุ่น ส่วนที่ไทยตั้งบริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด เป็นผู้ทำตลาด เพื่อเจาะกลุ่มการดูแลผู้สูงวัย ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 5 ปีจากนี้ประเทศไทยจะมีผู้สูงวัยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน และมี 3 โรงพยาบาลแล้วที่มีความสนใจจะใช้ เช่น โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลพญาไท เป็นต้น

สำหรับรายละเอียดการให้บริการของหุ่นยนต์ “ดินสอ” มีดังนี้

1. บริการต้อนรับ ทักทาย ลูกค้าอย่างเป็นกันเอง พูดได้หลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ จีน สามารถกล่าวทักทายชื่อลูกค้า และจดจำใบหน้าโดยการถ่ายรูปและบันทึกไว้ในฐานข้อมูลประวัติลูกค้า His & Her รวมถึงบริการเสิร์ฟน้ำให้ลูกค้า
2. แนะนำสินค้าภายในร้าน โดยการสแกน Tag สินค้า ที่มี QR Code เพื่อแนะนำรายละเอียดสินค้าและโปรโมชันได้อย่างชัดเจน
3. เป็นผู้ช่วยพนักงานขาย
ช่วยแนะนำสินค้าหรือสินค้าเทียบเคียง
ช่วยพนักงานขายในการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ POS (QRMS) โดยการสแกน QR Code เข้าสู่ระบบ Computer
4. ช่วยสนับสนุนการชำระเงิน
สามารถรับชำระสินค้าด้วยบัตรเครดิต
ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ www.eThailandBEST.com และส่งสินค้าตรงถึงบ้านได้อย่างรวดเร็ว
5. สร้างความสุข และความสนุกในการเลือกซื้อสินค้า และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลิน ณ จุดขาย เช่น เกมทายปัญหา, การแจกบัตรชมภาพยนตร์ หรือบัตรส่วนลดอื่นๆ
6. แจ้งข่าวสารของแต่ละแบรนด์ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ