ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” ชูแผนการจัดประชุมนานาชาติปี 2560 เดินหน้าตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ผนึกสมาคมวิชาชีพฯ ตั้งเป้าประมูลสิทธิ์การจัดงานขนาดใหญ่ เน้นเจาะกลุ่ม 5 อุตสาหกรรมหลัก “สุขภาพและการแพทย์-พลังงาน-อาหารและอุตสาหกรรมการเกษตร-โครงสร้างพื้นฐานและลอจิสติกส์-ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์” มุ่งเป้านักเดินทาง 3.15 แสนคน พร้อมรายได้ 3 หมื่นล้านบาท
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า จากการศึกษาวิจัยเรื่องผลทางด้านเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวมในปี 2558 พบว่ามีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจหลายด้าน โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจ คิดเป็นจำนวน 2.2 แสนล้านบาท ส่งผลต่อการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจประมาณ 1.64 แสนอัตรา
ในส่วนของธุรกิจการจัดประชุมนานาชาติ (Conventions) ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทยเติบโตจากการสร้างเครือข่าย การสร้างตราสินค้าและการแบ่งปันทักษะระหว่างอุตสาหกรรมในส่วน คิดเป็นจำนวนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเป็นจำนวนถึง 66,426 ล้านบาท สร้างรายได้ทางภาษีให้ภาครัฐกว่า 2.9 พันล้านบาท ทั้งยังสร้างงานให้แก่บุคลากรของประเทศมากกว่า 4.6 หมื่นตำแหน่ง
สนับสนุน 90 งานประชุมนานาชาติ สร้างเม็ดเงิน 3.8 พันล้านบาท
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานด้านการประชุมนานาชาติระหว่างเดือนตุลาคม 2558 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยชนะการประมูลสิทธิ์ 16 งาน มีจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศประมาณ 1.2 หมื่นคน ประมาณการรายได้เข้าประเทศ 1 พันล้านบาท โดยในส่วนของงานประชุมที่ “ทีเส็บ” ให้การสนับสนุนระหว่างเดือนตุลาคม 2558 จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 90 งาน จำนวนผู้เข้าประชุมจากต่างประเทศประมาณ 4.4 หมื่นคน สร้างรายได้ประมาณ 3.8 พันล้านบาท
ตัวอย่างงานสำคัญ อาทิ งาน Asian Utility Week 2016 เป็นงานเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจพลังงานซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทย มีผู้ร่วมงานจากต่างประเทศประมาณ 1 พันคน และอีกงานหนึ่งที่มีความสำคัญในฐานะประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของโลก คือ งาน Pig, Poultry and Dairy Focus Asia 2016 ซึ่งเป็นงานการประชุมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหาร ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ของการเพาะเลี้ยงและการบริหารจัดการการเพาะเลี้ยงสุกร สัตว์ปีกและโคนม มีผู้ร่วมงานทั้งจากทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย เอเชีย และวิทยากรจากยุโรปและอเมริกา รวมทั้งหมดประมาณ 500 คน
“ในปี 2560 ทีเส็บตั้งเป้าหมายจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1.109 ล้านคน สร้างรายได้ 1.01 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้คิดเป็นนักเดินทางในกลุ่มการประชุมนานาชาติ จำนวน 3.15 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยงานประชุมสำคัญๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2560 คือ งาน The 10th International Convention of Asia Scholars ระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม 2560 ณ จ.เชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศประมาณ 2 พันคน” นายนพรัตน์กล่าวในตอนท้าย
พลิกโฉมใหม่จัดงาน Convention Day
ด้าน น.ส.วิชญา สุนทรศารทูล ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดประชุมนานาชาติ “ทีเส็บ” กล่าวว่า ในปี 2559 “ทีเส็บ” จะมีการจัดงาน Convention Day ในรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรกเพื่อมอบเข็มเชิดชูเกียรติ International Conference Bid Achievement ให้ 16 สมาคมและองค์กรของไทยที่ได้ทุ่มเทและเสียสละประโยชน์ส่วนตัวทำงานประมูลสิทธิ์แข่งขันกับประเทศอื่นๆ ภายใต้การสนับสนุนของ “ทีเส็บ” จนได้รับชัยชนะสามารถดึงงานการประชุมนานาชาติเข้ามาจัดในประเทศไทยได้สำเร็จในรอบปีงบประมาณ 2559
การจัดงาน Convention Day จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Essence of Fame ในวันที่ 19 กันยายน 2559 เวลา 17.00-20.30 น. ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท โดย พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาร่วมงานและมอบเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่สมาคมและองค์กรที่ชนะการประมูลสิทธิ์ โดยงานที่ชนะการประมูลสิทธิ์มีหลากหลายสาขาวิชาชีพ ทั้งงานประชุมด้านการแพทย์ สัตวแพทย์ ปศุสัตว์ การศึกษา ดนตรี ลอจิสติกส์ และการท่องเที่ยว
กิจกรรมภายในงาน Convention Day ยังประกอบด้วย นิทรรศการ Hall of Fame เพื่อเผยแพร่ผลงานชนะการประมูลสิทธิ์ของทั้ง 16 สมาคมและองค์กรซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสได้รับชมและรับรู้รายละเอียดผลงานการชนะการประมูลสิทธิ์ ขณะเดียวกันยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แรงบันดาลใจ สร้างสรรค์อนาคตไทย” โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์มณเฑียร บุญตัน ประธานมูลนิธิคนตาบอดไทย และกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ เป็นวิทยากร
“ทีเส็บคาดว่าการจัดงาน Convention Day ในรูปใหม่จะช่วยกระตุ้นให้บทบาทในการประมูลสิทธิ์งานประชุมของสมาคมวิชาชีพในประเทศไทยได้รับการยอมรับทั้งจากภาครัฐและภาคส่วนอื่นๆ ในวงกว้างว่าเป็นการทำงานที่สร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศ ทั้งในแง่ของการพัฒนาองค์ความรู้ของสาขาวิชาชีพ การสร้างเครือข่าย การสร้างรายได้เข้าประเทศ อีกทั้งยังสร้างชื่อเสียงในฐานะประเทศที่มีขีดความสามารถในการจัดประชุมนานาชาติด้วย และจะเป็นแรงบันดาลใจให้สมาคมอื่นๆ ร่วมแข่งขันยื่นประมูลสิทธิ์งานต่อไปในอนาคต”
เน้นแผนการตลาดสอดรับโมเดล “ไทยแลนด์ 4.0
น.ส.วิชญากล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินงานส่งเสริมตลาดการจัดประชุมนานาชาติในปี 2560 ของ “ทีเส็บ” จะสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมความรู้ สร้างนวัตกรรมและมูลค่าเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมายแห่งประเทศที่มีรายได้สูง โดยการประชุมนานาชาติถือเป็นหนึ่งในฐานเศรษฐกิจใหม่ของโมเดลไทยแลนด์ 4.0 เนื่องจากเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในสาขาวิชาชีพที่ผู้ร่วมประชุมสามารถใช้เป็นฐานพัฒนาขีดความสามารถสำหรับต่อยอดนำไปพัฒนาสินค้าและบริการ หรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายของผู้ร่วมสาขาวิชาชีพเดียวกันต่อยอดไปสู่การร่วมมือในการพัฒนาในอนาคต
ด้านการประมูลสิทธิ์และการตลาดจะเน้นให้ประเทศไทยชนะการประมูลสิทธิ์จัดงานประชุมนานาชาติ พร้อมทั้งให้การสนับสนุนส่งเสริม โดยมุ่งผลักดันให้สมาคมวิชาชีพในประเทศไทยยื่นประมูลสิทธิ์จัดงานเพื่อเพิ่มจำนวนงานประชุมนานาชาติในประเทศและเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศ โดยในปี 2560 จะเน้นการสนับสนุนการประมูลสิทธิ์และการจัดงานประชุมนานาชาติขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าหมายประมูลสิทธิ์การประชุมใน 5 อุตสาหกรรมหลัก คือ 1. สุขภาพและการแพทย์ 2. พลังงาน 3. อาหารและอุตสาหกรรมการเกษตร 4. โครงสร้างพื้นฐานและลอจิสติกส์ 5. ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ สอดรับกับอุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลให้การสนับสนุนซึ่งจะทำงานร่วมกับสมาคมวิชาชีพต่างๆ ของไทยและการทำตลาดผ่านสมาคมนานาชาติและพันธมิตรต่างๆ ในอุตสาหกรรมการประชุม
นอกจากนี้ ยังมีแคมแปญ Convene in Paradise สนับสนุนการประชุมนานาชาติ เปิดตัวในปีงบประมาณ 2559 จนถึงปีงบประมาณ 2560 เพื่อสนับสนุนการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ 1. การประชุมนานาชาติที่มีผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างชาติอย่างน้อย 1 พันคน 2. การประชุมนานาชาติใน 5 อุตสาหกรรมหลัก คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างชาติอย่างน้อย 500 คน 3. การประชุมของสมาคมวิชาชีพในต่างประเทศที่เข้ามาจัดงานประชุมในประเทศไทย (Offshore Meeting) โดยจะต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างชาติอย่างน้อย 200 คน และร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศจะต้องมาจากประเทศเดียวกัน
“ทีเส็บยังกำหนดแผนงานที่จะช่วยยกระดับความรู้เกี่ยวกับการประมูลสิทธิ์งานและการบริหารจัดการสมาคมให้เป็นองค์กรมืออาชีพที่แข็งแกร่งให้สมาคมวิชาชีพในประเทศไทย โดยร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมการประชุมระหว่างประเทศในยุโรปและอเมริกา เพื่อจัดอบรมให้สมาคมวิชาชีพของไทย เพื่อทำให้สมาคมวิชาชีพมีความพร้อมมากที่สุดในการประมูลสิทธิ์งานได้เพิ่มมากขึ้นต่อไป” น.ส.วิชญากล่าวในที่สุด