xs
xsm
sm
md
lg

กฟภ.ดัมป์ราคา 30% ลุยตลาดหลอดไฟ LED

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “พีอีเอ เอ็นคอมฯ” รุกคืบบุกตลาดคอนซูเมอร์ ส่งหลอดไฟ LED ดัมป์ราคาถูกกว่าท้องตลาด 30% ยั่วใจผู้บริโภค ตั้งเป้ายอดขายกว่า 45 ล้านบาท ดันรายได้ปีนี้ทะลุ 100 ล้านบาท พร้อมส่งตลาดหลอดไฟรวมปีนี้พุ่ง 2.3 หมื่นล้านบาท

นายพัลลภ ภิญโญวิวัฒน์ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทฯ เน้นดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนใน 3-4 กลุ่มธุรกิจ คือ หลอดไฟประหยัดพลังงาน, ก่อสร้างระบบไฟฟ้า, ฝึกอบรม และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยรายได้หลักมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีอยู่ 4 แห่ง ส่วนหลอดไฟประหยัดพลังงานทำรายได้ 30% ของรายได้รวมทั้งหมด

ในส่วนธุรกิจหลอดไฟซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2558 เน้นกลุ่มโรงงานด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงราคาแพง ผู้บริโภคจับต้องยากนั้น ในปีนี้จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เรเซอร์ การไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีหลายประเภท พร้อมขยายฐานผลิตภัณฑ์มาสู่กลุ่มคอนซูเมอร์ด้วยการนำเสนอหลอดไฟ LED BULB และดาวน์ไลต์ รวมทั้งสิ้น 12 ชนิด ทั้งหลอดเกลียว โคมไฟดาวน์ไลต์ หลอดยาว T8 และชุดโคมประหยัดไฟทั้งแสงขาวและแสงเหลือง ออกสู่ตลาดในราคาที่เหมาะสม หรือถูกกว่าท้องตลาด 10-30% พร้อมพัฒนาหลอดและชุด LED 18 รุ่นใหม่ หลังจากปลายปีก่อนได้เข้ามารุกธุรกิจนี้ด้วยการเปิดตัวหลอดไฟเอ็นคอม LED 18 เป็นผลิตภัณฑ์แรก

นอกจากนี้ ยังจะเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงหลอดไฟประหยัดพลังงานมากขึ้น จากเดิมขายเฉพาะ PEA ชอป และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยจะเพิ่มในส่วนของห้างสรรพสินค้า เช่น ไทวัสดุ, โฮมเวิร์ค บุญถาวร, แกรนด์โฮมมาร์ท, โรบินสัน, เซ็นทรัล และเทสโก้ โลตัส เป็นจำนวนกว่า 400 สาขา รวมกับช่องทางขายเดิมทำให้มีจำนวนกว่า 500 สาขาทั่วประเทศ

“จากแผนการุกตลาดคอนซูเมอร์ครั้งนี้มั่นใจว่าสิ้นปีกลุ่มธุรกิจหลอดไฟประหยัดพลังงานจะทำรายได้กว่า 100 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงงาน 55 ล้านบาท และคอนซูเมอร์ 45 ล้านบาท ส่วนปีหน้าจะขยับเพิ่มเป็น 150 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 1-2 ปีหลังจากนี้จะมีส่วนแบ่งในตลาด LED 20% หรือมีรายได้ 1 พันล้านบาทขึ้นไป”

ปัจจุบันตลาดหลอดไฟรวมมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.1 หมื่นล้านบาทในปี 2558 โดยกลุ่ม LED มีสัดส่วน 22% ของตลาดรวม หรือมีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่า LED จะโตขึ้นเป็น 35% ในปี 2559

นายพัลลภกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่อเนื่อง โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้ใช้งบฯ กว่า 1 พันล้านบาท เพิ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแห่งที่ 5 ใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป



กำลังโหลดความคิดเห็น