“กรมพัฒน์” เตรียมเปิดตัวร้านค้าปลีก-ส่งสินค้าโอทอปต้นแบบที่ จ.สมุทรสงคราม 22 ส.ค.นี้ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่สินค้าโอทอป เล็งเปิดตัวให้ครบทั้ง 4 ภาคภายในปีนี้
น.ส.รัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาทางด้านการตลาดให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการสินค้าโอทอป ตามนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยล่าสุดได้เข้าไปช่วยพัฒนาร้านค้าปลีก-ส่งสินค้าโอทอปต้นแบบขึ้นมาแล้วในบริเวณปั๊มน้ำมันของเอกชนรายหนึ่งที่ จ.สมุทรสงคราม โดยจะเปิดตัวเป็นทางการในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าโอทอปให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
“กรมฯ มีนโยบายในการสร้างแหล่งจำหน่ายสินค้าโอทอปปลีก-ส่งร่วมกับเอกชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ โดยจะเน้นในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หากพบว่ามีศักยภาพก็จะเข้าไปช่วยพัฒนาร้านค้า ทั้งการให้ความรู้ คัดเลือกสินค้าโอทอปที่จะนำมาวางจำหน่ายและจะเชื่อมโยงนำผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านกลยุทธ์ การตลาดมาช่วย และหากติดปัญหาด้านเงินทุนก็จะช่วยเชื่อมโยงไปยังสถาบันการเงินด้วย”
สำหรับสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายจะเป็นสินค้าโอทอปที่ผ่านการคัดเลือกมาวางในร้านค้าปลีก-ส่งสินค้าโอทอป และยังจะดึงสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ในท้องถิ่นมาวางขายด้วย ซึ่งสินค้าที่วางขายจะมีครบทุกกลุ่ม เช่น อาหาร สมุนไพร สินค้าไม่ใช่อาหาร กลุ่มเสื้อผ้า แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนการดำเนินการให้มีร้านค้าปลีก-ส่งสินค้าโอทอปต้นแบบให้ครบทั่วทุกภาคของไทยภายในปีนี้ อย่างน้อยก็ให้ครบทั้ง 4 ภาค ขณะนี้มีเอกชนหลายรายที่แสดงความสนใจ และมีศักยภาพ เช่น ใน จ.ยโสธร, อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจ.แพร่
น.ส.รัตนากล่าวว่า กรมฯ ยังจะเข้าไปช่วยนำสินค้าโอทอปที่ผ่านการคัดเลือกด้านคุณภาพและศักยภาพด้านการตลาด (โอทอป ซีเล็กซ์) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 2,749 ราย มีทั้งสินค้าของใช้ ของตกแต่งและของที่ระลึก ผ้าและเครื่องแต่งกาย สมุนไพร อาหารและเครื่องดื่ม ให้เข้าสู่ระบบค้าขายออนไลน์ โดยกรมฯ จะส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ในต่างจังหวัดเพื่อเข้าไปให้คำแนะนำผู้ผลิตสินค้าโอทอปตามชุมชนต่างๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด และการนำสินค้ามาขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ โดยให้การอบรมตั้งแต่การถ่ายภาพสินค้า จนถึงการสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการเข้าไปช่วยฝึกฝนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย
นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนที่จะสร้างเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยจะทำการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตสินค้ากับผู้ผลิตวัตถุดิบ โดยเดือนหน้าจะเริ่มกับกลุ่มผู้ประกอบการเครื่องสำอางก่อนจำนวน 100 ราย เพื่อเชื่อมโยงการจัดซื้อวัตถุดิบกับผู้ผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเครื่องสำอางใน จ.ระยอง ที่ปัจจุบันผลิตเพื่อส่งออก เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการไทยต้องอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งการเชื่อมโยงลักษณะนี้จะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้
