ผู้จัดการรายวัน 360 - ททท. ฉวยจังหวะกระแสคนไทยเห่อ “โปเกมอน โก” เตรียมหารือกลุ่มทรู ปล่อยการ์ตูนตัวยากในสถานที่ท่องเที่ยวเป้าหมาย หวังแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างสมดุลด้านเวลาและสถานที่ท่องเที่ยว คาดปี 59 ทำรายได้รวมกว่า 2.4 ล้านบาท เหตุตลาดเมืองลุงแซมโตเกิน 10% ครั้งแรกในรอบหลายปี มั่นใจผลการออกเสียงประชามติสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 1-2 ปี
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากกระแสเกมออนไลน์ “โปเกมอน โก” ที่กำลังแพร่หลายอย่างมาก ททท. มีแนวคิดที่จะหารือร่วมกับกลุ่มทรู ผู้ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เพื่อพัฒนาไอเทมพิเศษของการ์ตูนโปเกมอนให้อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งยังจะถือเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างสมดุลด้านเวลาที่ใช้ในการท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย
แนวคิดดังกล่าวอาจเป็นลักษณะขอความร่วมมือให้กลุ่มทรูปล่อยตัวการ์ตูนยากๆ ที่ผู้เล่นมีความต้องการมากๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวเป้าหมายที่ ททท. ต้องการส่งเสริม โดย ททท. อาจจัดทริปท่องเที่ยวเพื่อนำนักท่องเที่ยวไปร่วมจับโปเกมอนในสถานที่นั้นๆ เพื่อเป็นการเอื้อต่อแผนงานของ ททท. ในการแก้ปัญหาด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ ททท. กำลังพยายามแก้ไขและรณรงค์อย่างต่อเนื่องคือเรื่องเวลาที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงนิยมเดินทางในวันเสาร์-อาทิตย์ และเรื่องสถานที่ซึ่งยังคงกระจุกอยู่ในไม่กี่เมืองเท่านั้น
นายยุทธศักดิ์ ยังกล่าวถึงกระแสต่อต้านนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระยะสั้นบนโลกออนไลน์และมีการทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีนแต่อย่างใด แต่ตลาดที่น่าเป็นห่วงคือออสเตรเลียซึ่งเติบโตน้อยกว่าที่คาด
นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงนิยมเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเติบโตสูงกว่า 10% จากที่เติบโตเพียงหลักเดียวมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดยุโรปก็เริ่มเติบโตขึ้นตามลำดับ ล่าสุดพบว่า ยอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า (Forward Booking) ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.59 เติบโตขึ้นถึง 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงคาดว่าในปี 2559 จะสามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2.4 ล้านล้านบาท แยกเป็นตลาดต่างประเทศ 1.56 แสนล้านบาท และตลาดในประเทศ 8.5 แสนล้านบาท ถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.3 ล้านล้านบาท
“จากผลการออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญและคำถามเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่ามีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความมั่นใจในสถานการณ์ของประเทศไทยมากขึ้น หรืออย่างน้อย 1-2 ปี ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้ภาวะการท่องเที่ยวไทยเติบโตต่อเนื่อง แต่ ททท. ยังคงต้องเร่งกำหนดกลยุทธ์การตลาดต่างประเทศที่ชัดเจนขึ้นโดยเน้นตลาดเฉพาะเป็นรายประเทศ โดยจะเห็นผลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.59 เป็นต้นไป”