ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ททท.ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ “Destination Wedding Planner Congress 2017” ผลักดันประเทศไทยเป็น Wedding Destination ระดับโลก
วานนี้ (15 มิ.ย.) โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย Mr.Ackash Jain ผู้บริหาร บริษัท QNA International ได้ร่วมลงนามข้อตกลงให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน “Destination Wedding Planner Congress 2017” โดยคาดจะว่ามีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจากทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 450 ราย พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Wedding Destination ระดับโลก เพื่อวางโครงสร้างนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพสู่การเป็น Quality Leisure Destination
นายยุทธศักดิ์ สุภสร เปิดเผยว่า งาน “Destination Wedding Planner Congress 2017” เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดเฉพาะด้าน Wedding ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยงานดังกล่าวจะจัดในรูปแบบ Trade-to-Trade Exhibition ในแต่ละปีจะมีผู้ซื้อ (Buyer) และผู้ขาย (Seller) ในกลุ่ม Wedding Planner Organizer โรงแรม รีสอร์ตระดับ 5 ดาว และบริษัทนำเที่ยวจากนานาชาติเดินทางเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 450 ราย ซึ่งที่ผ่านมา ททท. ได้นำผู้ประกอบการจากประเทศไทยเดินทางเข้าร่วมงานดังกล่าวมาแล้วทั้ง 3 ครั้ง จึงเสนอตัวขอรับการเป็นเจ้าภาพจัดงานฯ และได้รับเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพในครั้งนี้
สำหรับการคัดเลือกประเทศเจ้าภาพ ทางผู้จัดงานจะพิจารณาจากความพร้อมของการเป็น Wedding Destination ระดับโลก ทั้งด้านสินค้าและบริการ ความงดงามหรูหราของการจัดงาน เช่น การตกแต่งสถานที่ การจัดงานเลี้ยง ระบบแสงเสียง การบริการที่น่าประทับใจ และเป็นมืออาชีพ โดยผู้จัดงานได้ให้เหตุผลในการเลือกประเทศไทยเป็นประเทศเจ้าภาพ ว่า นอกจากความพร้อมด้านการจัดงานแล้ว ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงทั้งสำหรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่เดินทางเพื่อพักผ่อน รวมถึงการจุดหมายสำหรับจัดงานแต่งงาน และฮันนีมูน
อีกทั้งยังมีประเพณีที่เก่าแก่ยาวนาน มีมรดกทางวัฒนธรรม และอัธยาศัยไมตรีของผู้คน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับการจัดอันดับเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่จะเดินทางมาจัดงานแต่งงาน (Wedding Destination) จากการจัดอันดับต่างๆ มากมาย ได้แก่ อันดับ 1 ใน Top Destination สำหรับเอเชีย อันดับ 3 ใน Top Destination สำหรับออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อันดับ 6 ใน Top Destination สำหรับยุโรป อันดับ 3 ใน Emerging Destination สำหรับตะวันออกกลาง และอันดับ 1 ใน Emerging Destination สำหรับแอฟริกาด้วย
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการแต่งงานเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง กล่าวคือ มูลค่ารวมในปัจจุบันอยู่ที่ 298 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่ารวมของการจัดงานแต่งงานในต่างประเทศอยู่ที่ 80 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสำหรับประเทศไทย นักท่องเที่ยวคู่แต่งงานที่จัดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และมีการใช้จ่ายสูง
โดยคู่แต่งงานชาวต่างชาติจะมีการใช้จ่ายประมาณ 5-20 ล้านบาทต่อครั้ง โดยกลุ่มคู่แต่งงานที่นิยมเดินทางมาจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทย คือ ตลาดอินเดีย (400 คู่ต่อปี) และฮ่องกง นอกจากนี้ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดยุโรป และอเมริกา โดย ททท.คาดหวังว่า การจัดงานฯ ในครั้งนี้จะเป็นการแสดงศักยภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการ Wedding Destination เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง รวมถึงเป็นการปรับโครงสร้างการทำการตลาดของ ททท.ไปสู่การเป็น Quality Leisure Destination อีกด้วย
วานนี้ (15 มิ.ย.) โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย Mr.Ackash Jain ผู้บริหาร บริษัท QNA International ได้ร่วมลงนามข้อตกลงให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน “Destination Wedding Planner Congress 2017” โดยคาดจะว่ามีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจากทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 450 ราย พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Wedding Destination ระดับโลก เพื่อวางโครงสร้างนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพสู่การเป็น Quality Leisure Destination
นายยุทธศักดิ์ สุภสร เปิดเผยว่า งาน “Destination Wedding Planner Congress 2017” เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดเฉพาะด้าน Wedding ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยงานดังกล่าวจะจัดในรูปแบบ Trade-to-Trade Exhibition ในแต่ละปีจะมีผู้ซื้อ (Buyer) และผู้ขาย (Seller) ในกลุ่ม Wedding Planner Organizer โรงแรม รีสอร์ตระดับ 5 ดาว และบริษัทนำเที่ยวจากนานาชาติเดินทางเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 450 ราย ซึ่งที่ผ่านมา ททท. ได้นำผู้ประกอบการจากประเทศไทยเดินทางเข้าร่วมงานดังกล่าวมาแล้วทั้ง 3 ครั้ง จึงเสนอตัวขอรับการเป็นเจ้าภาพจัดงานฯ และได้รับเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพในครั้งนี้
สำหรับการคัดเลือกประเทศเจ้าภาพ ทางผู้จัดงานจะพิจารณาจากความพร้อมของการเป็น Wedding Destination ระดับโลก ทั้งด้านสินค้าและบริการ ความงดงามหรูหราของการจัดงาน เช่น การตกแต่งสถานที่ การจัดงานเลี้ยง ระบบแสงเสียง การบริการที่น่าประทับใจ และเป็นมืออาชีพ โดยผู้จัดงานได้ให้เหตุผลในการเลือกประเทศไทยเป็นประเทศเจ้าภาพ ว่า นอกจากความพร้อมด้านการจัดงานแล้ว ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงทั้งสำหรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่เดินทางเพื่อพักผ่อน รวมถึงการจุดหมายสำหรับจัดงานแต่งงาน และฮันนีมูน
อีกทั้งยังมีประเพณีที่เก่าแก่ยาวนาน มีมรดกทางวัฒนธรรม และอัธยาศัยไมตรีของผู้คน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับการจัดอันดับเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่จะเดินทางมาจัดงานแต่งงาน (Wedding Destination) จากการจัดอันดับต่างๆ มากมาย ได้แก่ อันดับ 1 ใน Top Destination สำหรับเอเชีย อันดับ 3 ใน Top Destination สำหรับออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อันดับ 6 ใน Top Destination สำหรับยุโรป อันดับ 3 ใน Emerging Destination สำหรับตะวันออกกลาง และอันดับ 1 ใน Emerging Destination สำหรับแอฟริกาด้วย
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการแต่งงานเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง กล่าวคือ มูลค่ารวมในปัจจุบันอยู่ที่ 298 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่ารวมของการจัดงานแต่งงานในต่างประเทศอยู่ที่ 80 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสำหรับประเทศไทย นักท่องเที่ยวคู่แต่งงานที่จัดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และมีการใช้จ่ายสูง
โดยคู่แต่งงานชาวต่างชาติจะมีการใช้จ่ายประมาณ 5-20 ล้านบาทต่อครั้ง โดยกลุ่มคู่แต่งงานที่นิยมเดินทางมาจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทย คือ ตลาดอินเดีย (400 คู่ต่อปี) และฮ่องกง นอกจากนี้ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดยุโรป และอเมริกา โดย ททท.คาดหวังว่า การจัดงานฯ ในครั้งนี้จะเป็นการแสดงศักยภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการ Wedding Destination เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูง รวมถึงเป็นการปรับโครงสร้างการทำการตลาดของ ททท.ไปสู่การเป็น Quality Leisure Destination อีกด้วย