ผู้จัดการรายวัน 360 - “เป๊ปซี่โค” จับมือกรมวิชาเกษตร พัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่งเพิ่มผลผลิต ลดการนำเข้า หวังระยะยาวช่วยดันไทยเป็นฮับการส่งออกวัตถุดิบมันไปต่างประเทศ หลังปีนี้ต้องการผลผลิตกว่า 100,000 ตัน สำหรับผลิต “เลย์” จำหน่ายตลอดปี มองตลาดรวมปีนี้โตเล็กน้อยจากสภาพเศรษฐกิจ
นายวิชาล คาอูล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตหลักและเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจของเป๊ปซี่โคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะธุรกิจขนมขบเคี้ยว กับผลิตภัณฑ์ “เลย์” นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในไทย บริษัทฯ ได้ยึดถือนโยบายการส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืน ด้วยการมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นหลัก พัฒนาศักยภาพของเกษตรกรไทยเพื่อให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการดำเนินธุรกิจผ่าน “โครงการส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งอย่างยั่งยืนภายใต้สัญญาข้อตกลงการผลิตที่มีการประกันราคารับซื้อที่แน่นอน”
โดยที่ผ่านมาได้รับซื้อมันฝรั่งจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 6,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่การปลูกรวมกว่า 28,000 ไร่ ในภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก แม่ฮ่องสอน และพิษณุโลก และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี สกลนคร และหนองคาย จากตัวเลขรวมเกษตรกรทั่วประเทศปลูกมันฝรั่งรวม 7,000 ราย
นายชวาลา วงศ์ใหญ่ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการเกษตร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเป๊ปซี่โคมีการนำเข้าผลผลิตมันฝรั่งจากต่างประเทศราว 50-60% เนื่องจากประเทศไทยไม่เอื้อต่อการเพาะปลูกมันฝรั่งตลอดปี จะปลูกได้เฉพาะในช่วงหน้าหนาว และในช่วงหน้าฝนเพียงเล็กน้อย ทำให้มีผลผลิตเพียงพอแค่ในช่วงครึ่งปีแรก แต่ในครึ่งปีหลังจะต้องเป็นการพึ่งพาการนำเข้าเป็นหลักซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าปกติ 20-30% ขณะที่แต่ละปีบริษัทมีการใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบอยู่ที่ 100,000 ตัน ในปีนี้ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวจะมีอัตราการเติบโตขึ้นเล็กน้อย ตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี แต่เลย์ยังคงเป็นผู้นำตลาดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่ง ส่วนสำคัญเพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร และในระยะยาวถือเป็นการพัฒนาสร้างคุณภาพในการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งให้มีมาตรฐาน อันจะส่งผลต่อแผนการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตที่กำลังศึกษาการวางไทยเป็นฐานการส่งออกไปยังต่างประเทศในอนาคต ดังนั้น ทางบริษัทจึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เป็นต้น ในการจัดตั้ง “โครงการพัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่งภายในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า” ซึ่งเป็นแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาว 5 ปี (60-64) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มอัตราการใช้หัวพันธุ์มันฝรั่งภายในประเทศให้สูงขึ้นภายใน 5 ปี ส่งผลให้เกษตรกรไทยทั้งในด้านต้นทุนการผลิตที่ลดลงและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (54-58) ประเทศไทยมีการนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งพันธุ์โรงงานเฉลี่ยกว่า 4,700 ตันต่อปี
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรมวิชาการเกษตรได้ทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จนได้ออกมาเป็นหัวพันธุ์รุ่น G0 โดยเป๊ปซี่โคได้นำมาขยายต่อยอดภายในโรงเรือนของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาเป็นรุ่น G1 และได้ทดลองปลูกในแปลงสาธิตจนได้รุ่น G2 และ G3 โดยปัจจุบันหัวพันธุ์ G3 มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 25-26 บาท ซึ่งบริษัทวางแผนในการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้หัวพันธุ์ G3 ที่ผลิตในประเทศเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยตั้งเป้าลดการนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งให้ได้มากกว่า 50% ภายใน 5 ปีข้างหน้า