ผู้จัดการรายวัน 360 - ททท.เปิดกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านตลาดในประเทศ ปี 2560 “ท้าเที่ยวข้ามภาค” เจาะกลุ่ม 3 กระแสหลัก GEN Y - Women - Silver Age กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ พร้อมชูแนวคิดชวนคนไทยทั้งประเทศเอาเรื่องดีของเมืองไทยมา “อวด” และ “ขอท้า” ข้ามถิ่นพิสูจน์ หวังสร้างกระแสสังคมครั้งใหญ่แห่งปีผ่านสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก มั่นใจสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยกว่า 9.5 แสนล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ททท.จัดประชุมแผนปฏิบัติการท่องเที่ยวด้านตลาดในประเทศ ประจำปี 2560 ณ จังหวัดขอนแก่น โดยวางเป้าหมายรายได้ปี 2560 จำนวน 9.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% พร้อมกำหนดแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อมุ่งหวังให้บรรลุเป้าหมายรายได้ สร้างเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ ภายใต้โครงการ “ท้าเที่ยวข้ามภาค” โดยการ “ขอท้า” ให้คนไทยออกไปเที่ยวข้ามภาค ไปสัมผัสกับความแตกต่างของแต่ละท้องถิ่น ออกไปแลกเปลี่ยน Local Experience ใหม่ๆ ประสบการณ์ต่างๆ สัมผัสความแตกต่างของวัฒนธรรมพื้นถิ่น และความแตกต่างของธรรมชาติ เพื่อสร้างกระแสสังคมครั้งใหญ่และต่อเนื่องตลอดปี 2560
การดำเนินโครงการ “ท้าเที่ยวข้ามภาค” ททท.วางกลยุทธ์ขอท้า 3 กลุ่มเป้าหมายกระแสหลักให้เที่ยวข้ามภาคร่วมกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ได้แก่ กลุ่ม GEN Y ท้าลุยข้ามภาคไปท้าพิสูจน์ของดีของเด็ดในภาคต่างๆ ท้าคนฝั่งทะเลข้ามภาคมาปีนเขา ท้าเด็กดอยมาโต้คลื่นกับเด็กทะเลที่ภาคใต้ ท้าคนรักหมูย่างเมืองตรังมากินหมูยอสุดแซบที่ภาคอีสาน
“ส่วนกลุ่ม Women ท้าให้เที่ยวข้ามภาคออกไปใช้เวลาคุณภาพกับตัวเอง เที่ยวข้ามพื้นที่ไปชอป ใช้ชีวิตชิกๆ เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร และกลุ่ม Sliver Age ท้าก๊วนรุ่นใหญ่ หัวใจวัยสะรุ่น ให้ชวนเดอะแก๊งออกไปซิ่งข้ามภาคยกก๊วน ทั้งก๊วนกิน ก๊วนกอล์ฟ ก๊วนบุญ ก๊วนแดนซ์ ให้สุดสวิงริงโก้ เรียกว่าเที่ยวจนลืมวัย”
นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า กลยุทธ์หลักจะมุ่งเน้นให้ GEN Y เป็นผู้สร้างเครือข่ายใยแมงมุมผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ขณะที่กลุ่ม Women ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพราะมีกำลังซื้อและมีอำนาจในการตัดสินใจสูง และกลุ่ม Silver Age เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและมีเวลาท่องเที่ยว
ททท.ยังขอท้าคนไทยทุกคนออกเดินทางไปสัมผัสสุดยอดกิจกรรมท้าเที่ยวข้ามภาค 5 กิจกรรมใหญ่ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกภาคของประเทศไทยตลอดทั้งปี ประกอบด้วย MUSIC ARTS TALK RUN และ FOOD (อาหารถิ่น) โดยเฉพาะกิจกรรม FOOD (อาหารถิ่น) เป็นกิจกรรมที่คนไทยไม่ควรพลาด เพราะจะนำเสนออาหารถิ่นที่แสนอร่อย หารับประทานได้ยากจากทั่วประเทศ
“อาหารถิ่นจะเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดที่สำคัญยิ่งให้คนไทยออกไปเที่ยว ส่งผลเชื่อมโยงถึงการใช้จ่ายและสร้างรายได้ในพื้นที่ให้โตแบบก้าวกระโดด ควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นการทำ Product Improvement พัฒนาสินค้าท่องเที่ยวพื้นถิ่นให้มีศักยภาพ เช่น สินค้าผ้าไทย สินค้า DIY สินค้าย้อนอดีต หรือ Nostalgia และสินค้าอื่นๆ ตามกระแสความนิยมในปัจจุบันให้โดนใจกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย สร้างมูลค่าเพิ่ม ดึงดูดการใช้จ่ายให้มากขึ้น”
ในปี 2560 ททท.ยังจะต่อยอดความสำเร็จกับ 2 โครงการจากปี 2559 โดยจะท้าให้ข้ามภาคออกไป Plus ความสุข เก็บเกี่ยวประสบการณ์ท่องเที่ยว เชื่อมโยงในเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปพบกับสินค้าท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับโครงการ “12 เมืองต้องห้าม...พลาด PLUS” ได้แก่ ลำปาง-ลำพูน, น่าน-แพร่, เพชรบูรณ์-พิษณุโลก, เลย-ชัยภูมิ, บุรีรัมย์-สุรินทร์, สมุทรสงคราม-นครปฐม, ราชบุรี-สุพรรณบุรี, จันทบุรี-สระแก้ว, ระยอง-ตราด, ชุมพร-ระนอง, ตรัง-สตูล, นครศรีธรรมราช-พัทลุง
นายยุทธศักดิ์กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า ททท.ยังขอท้าคนไทยให้เที่ยวข้ามภาคไปเที่ยวในวันธรรมดาน่าเที่ยว พลิกวันว่างให้เป็นวันเศรษฐกิจ สนับสนุนให้ทุกที่ในเมืองไทยเป็น 2nd Workplace เพื่อจุดประกายไอเดียใหม่ๆ รวมทั้งยังจับมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเสนอขายแพกเกจราคาพิเศษในวันธรรมดาอีกด้วย ได้แก่ สายการบิน, หน่วยงานเอกชน, ผู้ประกอบการโรงแรม, บริษัทรถเช่า, พันธมิตรบริษัทน้ำมัน, เครือห้างสรรพสินค้า, บัตรเครดิต, โรงภาพยนตร์ และสื่อมวลชนทุกแขนง เป็นต้น