xs
xsm
sm
md
lg

“กรมพัฒน์” เผยตั้งบริษัทใหม่ มิ.ย.เพิ่มขึ้นเฉียด 6 พันราย พร้อมสั่งถอนทะเบียนเครือข่าย “ทรานลี่” อีก 2 แห่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เผยยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่เดือน มิ.ย.เฉียด 6 พันราย เพิ่มขึ้น 15% คาดครึ่งปีหลังจดเพิ่มอีกมากแน่ หลังกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจมีผลบังคับใช้ ทำให้เอสเอมอีและสตาร์ตอัพจดตั้งบริษัทเพิ่มขึ้น เหตุมีแหล่งเงินทุนทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น พร้อมสั่งเพิกถอดทะเบียนเครือข่าย “ทรานลี่” อีก 2 บริษัท รวมเป็น 15 บริษัท

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจเดือนมิ.ย.2559 มีผู้ประกอบธุรกิจมายื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ทั่วประเทศรวม 5,916 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 36% และเทียบกับ มิ.ย. 2558 เพิ่มขึ้น 15% ส่วนในช่วงครึ่งปี 2559 (ม.ค.-มิ.ย.) มียอดจดที่ 31,792 ราย เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ

ขณะที่นิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกในเดือน มิ.ย. 2559 มีจำนวน 1,392 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 43% และเทียบกับ มิ.ย. 2558 เพิ่มขึ้น 5% โดยกิจการที่เลิกสูงสุด คือ ธุรกิจค้าสลากที่มีจำนวน 139 ราย หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั้งหมดในเดือน มิ.ย. สาเหตุส่วนใหญ่เลิกเนื่องจากธุรกิจไม่ได้ประกอบกิจการ และยอดรวม 6 เดือน มีจำนวน 6,834 ราย ลดลง 1%

ทั้งนี้ กรมฯ คาดว่ายอดการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มมากขึ้น เพราะพ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) และผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ (สตาร์ทอัพ) จะขอสินเชื่อทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยสามารถนำทรัพย์สิน เครื่องจักร สินค้าคงคลัง ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น มาเป็นหลักประกันในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ และขณะนี้กรมฯ ได้เปิดให้สถาบันการเงินนำสัญญาขอสินเชื่อ โดยใช้หลักประกันทางธุรกิจมาจดทะเบียนแล้วซึ่งจะส่งผลให้มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นด้วย

“ตั้งแต่วันที่ 4-11 ก.ค. 2559 มีผู้มายื่นขอจดทะเบียนหลักประกันธุรกิจแล้ว 38,200 คำขอ ยอดเงินกู้รวม 162,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ 96% เอาสมุดบัญชีธนาคารมาเป็นหลักประกันเงินกู้ ที่เหลืออีก 4% เป็นสินค้าคงคลัง มูลค่า 3,241 ล้านบาท เครื่องจักร 3,115 ล้านบาท รถยนต์ 3,318 ล้านบาท และลูกหนี้ 38 ล้านบาท”

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2559 กรมฯ ได้เพิกถอนทะเบียนบริษัทอีก 2 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท เนเชอรัล เบย์ รีสอร์ท จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ตที่ จ.พังงา 2. บริษัท เซียนชาบู ชาบู จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับภัตตาคารและร้านอาหารที่ จ.ภูเก็ต จากก่อนหน้านี้ได้เพิกถอนไปแล้ว 13 บริษัท รวมเป็น 15 บริษัท จากทั้งหมด 17 บริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด โดยทั้ง 2 บริษัทใหม่นี้มีนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม ซึ่งสวมสิทธิบัตรประชาชนคนไทยทั้งที่ตนเองไม่ได้มีสัญชาติไทย เป็นผู้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โดยนายกฤชกรได้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วหลายข้อหา ทั้งใช้บัตรประชาชนปลอม เป็นคนต่างด้าวทำธุรกิจต้องห้ามในไทย เป็นต้น

“ตั้งแต่ปี 2558 กรมฯ มีแผนตรวจสอบนอมินี หรือกรณีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อประกอบธุรกิจต้องห้าม หรือธุรกิจที่ต้องขออนุญาต แต่ไม่ขออนุญาต ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ. 2542 ใน 10 จังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดตรวจไปแล้ว 9 จังหวัด รวม 327 ราย พบว่า เข้าข่ายนอมินี 15 ราย แบ่งเป็นธุรกิจร้านอาหาร 11 ราย ท่องเที่ยว 2 ราย ขายของที่ระลึก 1 ราย และเช่ารถ 1 ราย ซึ่งในเดือนก.ค.นี้จะประสานกับตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อไป” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น