ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอืด “ไวไว” เร่งปั้นยอดขาย อัด 400 ล้านบาทลุยตลาดปีนี้ พร้อมต่อยอดสินค้าผุดไอเดียเปิด “ควิกเทอร์เรซ” ลุยร้านอาหาร ใช้วัตถุดิบนตัวเองทั้งหมด เป้าแผน 5 ปี ผุด 50 สาขา ด้วยงบ 100 ล้านบาท
นายยศศรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว” และ “ควิกแสบ” เปิดเผยว่า ตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2558 มีการแข่งขันสูงส่งผลให้อัตราการเติบโตน้อยมากประมาณ 2-3% เท่านั้น ส่วนครึ่งปีแรกปี 2559 ตลาดรวมเติบโตประมาณ 1-2% ขณะเดียวกันยอดขายรวมของบริษัทฯ ก็เติบโตเพียงหลักเดียวจากที่ผ่านมาจะเติบโตสองหลักเพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี
บริษัทฯ จึงได้ต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ด้วยการวางแผนที่จะเปิดธุรกิจร้านอาหารชื่อ “ควิก เทอร์เรซ” ซึ่งที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดบริการแล้ว 1 สาขาที่หน้าโรงงานถนนพุทธมณฑล สาย 5 ประมาณปีเศษ โดยใช้วัตถุดิบของบริษัทมาจำหน่ายและสร้างสรรค์เมนูขึ้นมาโดยเฉพาะซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี จึงเตรียมที่จะนำโมเดลนี้ไปเปิดขยายภายนอกต่อไป โดยคาดว่าปลายปีนี้จะเปิดอีก 1 สาขา
ทั้งนี้ วางแผนระยะยาวว่าจะเปิดให้ได้ประมาณ 50 สาขาภายใน 5 ปีจากนี้ ลงทุนเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อสาขา รวมประมาณ 100 ล้านบาท พื้นที่เฉลี่ย 30-70 ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ เน้นทำเลย่านชุมชนเน้น สถานศึกษา สถานที่ท่องเที่ยว แต่ไม่เน้นเปิดในห้างค้าปลีก เพราะส่วนต่างกำไรของการทำร้านอาหารดีกว่าการขายแบบเดิม
สำหรับงบการตลาดปีนี้จะใช้ 400 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยแบรนด์ “ไวไว” จะเน้นมิวสิกมาร์เกตติ้ง วัฒนธรรม ส่วน “ควิกแสบ” จะเน้นสปอร์ตมาร์เกตติ้ง โดยบริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมคอร์ปอเรตแชร์ 24% เป็นอันดับสองในตลาดรวม แบ่งเป็น “ไวไว” 15% และ “ควิกแสบ” 9% โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตประมาณ 2-3% ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตลาดแบบคัพมีสัดส่วนกว่า 25% ในตลาดรวม เติบโตดีกว่าแบบซอง
“ที่ผ่านมาเรามีความเคลื่อนไหวตลอด เช่น ปี 2557 ทำแพกเกจจิ้งซองแทตทูคัลเลอร์ ปี 2558 ทำตลาดคอนเซ็ปต์ 7อรหันต์ ส่วนรสชาติยังไม่มีการออกรสชาติใหม่ในช่วง 4 ปีมานี้ โดยปัจจุบันไวไวมีถ้วย 2 รสชาติ และซอง 14 รสชาติ ส่วนควิกแสบแบบถ้วยมี 7 รสชาติ และแบบซองมี 4 รสชาติ โดย 4 รสชาติหลักที่ขายดีคือ ปรุงสำเร็จ สัดส่วนยอดขายกว่า 50% รองมาคือ หมูสับต้มยำ หอยลาย และหมูสับ”
นายยศสรัล กล่าวว่า ในปี 2559 “ควิกแสบ” มีการตอกย้ำกลยุทธ์ทางการตลาดสปร์ตมาร์เก็ตติ้งเพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ “ควิกแสบ แสบเข้าเส้น” จึงอยากจะขอเชิญชวนคนที่มีความแสบอยู่ในตัวมาร่วมทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์และร่วมสร้างประสบการณ์แสบๆ โดยการร่วมแคมเปญ “ควิกแสบ...ซ่าปั่นสุดทีน” ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของแคมเปญนี้คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสจัดจ้านและมีความแสบอยู่ในตัวที่พร้อมจะแสดงออกมาในรูปแบบการทำกิจกรรมแสบๆ แบบต่างๆ ที่อิงไปตามกระแสนิยมซึ่งปัจจุบันก็คือการขี่จักรยานนั่นเอง
“สำหรับกิจกรรม ควิกแสบซ่า...ปั่นสุดทีน เราตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภคที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปควิกแสบด้วยดีมาโดยตลอด ในปี 2559 คาดว่ายอดขายเติบโต 3-5% และหากกระแสการตอบรับดีจะมีการต่อยอดแคมเปญ 2 ต่อไปอีกแน่นอน”
สำหรับผู้ที่สนใจแคมเปญ “ควิกแสบซ่า...ปั่นสุด TEEN” สามารถร่วมแคมเปญนี้ได้เพียงซื้อสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ควิกแสบ” ชนิดแพก 10 ซอง หรือชนิดกล่อง 30 ซอง (ทุกรสชาติ) สะสมคูปองให้ครบ 4 ชิ้น เป็นรูปรถจักรยาน สามารถนำมาแลกรับ “จักรยานฟิกเกียร์ควิกแสบ รุ่น Limited Edition” จำนวน 1 คัน รวมทั้งสิ้น 500 คัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 30 ก.ย.59 โดยสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ควิกแสบ” รุ่นที่ร่วมรายการได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ควิกแสบ” ท่านใดที่สะสมแล้วพลาด ไม่ได้รับจักรยานอย่าเสียใจไป เพราะ “ควิกแสบ” ยังให้ได้ร่วมสนุก เพียงรวบรวมให้ครบ 4 ชิ้น (ชิ้นใดก็ได้) นำมาแลกรับฟรีตั๋วชมภาพยนตร์ 1 ใบ แลกรับสิทธิ์ได้ที่ M Cornner สามารถรับชมได้ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี ทุกสาขา, พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์, หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์, ไดอาน่า ซีนีเพล็กซ์, เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์ และอีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ (เฉพาะที่นั่งปกติ 2D เท่านั้น)