นายณรงค์ ลีนานนท์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ยอมรับว่า การพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำปราจีนบุรีทำได้ค่อนข้างยากเนื่องจากเป็นพื้นที่ป่า โดยเฉพาะแหล่งมรดกโลก
“ลุ่มน้ำปราจีนบุรีมีปริมาณน้ำท่าปีละกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ความจุอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดใหญ่มีเพียง 500 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 10% เท่านั้น ทำให้ต้องประสบปัญหาจากน้ำ ทั้งน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำ”
โครงการอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ความจุอ่าง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทานวางแผนก่อสร้างเดือนตุลาคม 2551 ถึงเดือนกันยายน 2560 โดยปิดกั้นคลองพระสะทึง บริเวณ ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์
จุดเปลี่ยนของการก่อสร้างเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557 เมื่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสภาพน้ำท่วมโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ อ.เมือง จ.สระแก้ว โรงเรียนฝึกสอนชาวนาเรียนรู้กระบวนการใช้ควายไถนา มีพระราชดำริให้กรมชลประทานเร่งรัดการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึงให้กักเก็บน้ำในฤดูฝน 2558 กรมชลประทานได้สนองพระราชดำริ โดยปรับแผนเร่งรัดการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ และได้กราบบังคมทูลความก้าวหน้าให้ทรงทราบเป็นระยะ สุดท้ายช่วงฤดูฝนอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึงก็สามารถกักเก็บน้ำได้ตามพระประสงค์ โดยเก็บน้ำได้มากถึงกว่า 60 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 95% ของความจุอ่าง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร
การกักเก็บน้ำได้ช่วยให้ อ.เมือง จ.สระแก้ว และ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รอดพ้นอุทกภัยจากพายุหว่ามก๋อได้สำเร็จจากที่เคยท่วมแทบทุกปี เท่ากับอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึงใช้ประโยชน์เร็วขึ้นจากแผนเดิมอย่างน้อย 2 ปี
วันที่ 13 มกราคม 2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้วางท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึง เพื่อส่งน้ำเข้าบ่อน้ำของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทุ่งกบินทร์ ให้มีปริมาณเพียงพอใช้ในกิจกรรมต่างๆ และสำหรับราษฎรใช้ทำประปาหมู่บ้านด้วย
โรงเรียน ตชด. เป็นโรงเรียนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้มีกิจกรรมการเกษตรเพื่อเป็นอาหารกลางวันสำหรับเด็กในชั้นต้น เด็กที่ได้อาหารกลางวันจะมีสมาธิในการเรียนดีขึ้น ขณะเดียวกันแปลงเกษตรเป็นแหล่งฝึกฝนเด็กนักเรียนสำหรับใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองในภายหน้าได้ ขณะนี้การก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำไปยังโรงเรียนใกล้แล้วเสร็จ และใช้ประโยชน์ได้ในทันที
ในช่วงเดือนมกราคม 2559 เช่นเดียวกัน ลุ่มน้ำคลองพระสะทึงเหมิอนกับพื้นที่ลุ่มน้ำอื่นที่เผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำจากวิกฤตภัยแล้ง ก็ได้น้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึงนี่แหละมาช่วย ทั้งการเกษตร การอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ โดยเฉพาะการหนุนช่วยอ่างเก็บน้ำพระปรงในการไล่น้ำเค็มในลุ่มน้ำปราจีนบุรี โดยระบายน้ำมากถึง 43 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเฉลี่ยวันละ 3 แสนลูกบาศก์เมตร จนถึงเดือนพฤษภาคม 2559 ที่เริ่มย่างเข้าสู่ฤดูฝน
“เราใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ตั้งแต่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ 100% ทั้งการบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน และการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง คาดว่าจะปิดงานก่อสร้างอ่างฯ ได้โดยสมบูรณ์ภายในเดือนกันยายน 2559 เท่ากับเร็วกว่าแผนเดิม 1 ปี” นายประพิศ จันทร์มา ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทานกล่าว
ส่วนระบบส่งน้ำ ทั้งคลองสายหลัก สายซอย สายแยกซอย วางแผนก่อสร้างในปี 2560 กำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้อีก 40,640 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล ของ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.วังสมบูรณ์ อ.วังน้ำเย็น และ อ.เขาฉกรรจ์
อ่างเก็บน้ำอ่างหนึ่ง เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ย่อมยังประโยชน์นานัปการและใช้งานอย่างยาวนาน สร้างสรรค์ผลผลิตการเกษตรเลี้ยงผู้คน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร รวมทั้งคนเมือง