เพจ “กรมทรัพย์สินทางปัญญา” ออกโรงสยบดรามาโลกโซเซียลออนไลน์ หลังร้านกาแฟถูกบุกจับรีดค่าลิขสิทธิ์ ยันเคสที่ศาลฎีกาตัดสินเป็นเฉพาะคดี จะนำมาใช้กรณีนี้ไม่ได้ ระบุเปิดเพลงในร้านกาแฟ ร้านอาหาร ไม่ว่าจะซีดี ดีวีดี ยูทิวบ์ ถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ต้องได้รับอนุญาตเจ้าของสิทธิก่อน พร้อมแนะผู้ประกอบการใช้วิธีพูดคุยก่อนจับกุม เพราะยังมีคนไม่เข้าอีกมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2559 แฟนเพจกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เผยข้อกฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ในประเด็นที่กำลังเป็นที่จับตาอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ หลังจากเกิดกรณีมีผู้ประกอบการร้านกาแฟรายหนึ่งใน จ.แพร่ ถูกจับลิขสิทธิ์เพลง เพราะในร้านได้เปิดเพลงจากยูทิวบ์ โดยถูกพนักงานจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ไปแจ้งความจับกุม และมีการแชร์ข้อความในโลกออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก
โดยแฟนเพจกรมทรัพย์สินทางปัญญาระบุว่า “การเปิดเพลงในร้านกาแฟ ร้านอาหาร ไม่ว่าจากสื่อใดๆ เช่น ซีดี ดีวีดี Youtube ถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชน ที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน เพราะอาจเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ และจากฎีกาที่ศาลได้เคยพิพากษาว่าการเปิดเพลงในร้านอาหารโดยไม่มีการเก็บค่าฟังเพลงด้วย ถือว่าไม่ได้หากำไรจากการเปิดเพลง ย่อมไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นฎีกาเฉพาะคดีนั้นซึ่งมีรายละเอียดข้อเท็จจริงเฉพาะเรื่อง ไม่อาจปรับใช้ได้กับการเปิดเพลงในร้านอาหารกรณีอื่นๆ ได้เสมอไป”
“ฝากถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือบริษัทตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจ ในสังคมไทยเราส่วนใหญ่อาจยังไม่เข้าใจในประเด็นนี้ เพราะกฎหมายลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่ซับซ้อน จึงอยากให้วิธีการ คือ เข้าไปคุยเข้าไปเจรจา ให้มีการอนุญาตสิทธิก่อน อย่าเพิ่งใช้วิธีการจับกุมดำเนินคดี ผู้ประกอบการบางรายไม่ทราบจริงๆ ก็มีนะครับ ใช้วิธีการที่อะลุ่มอล่วยก่อนดีกว่า กับภาวะที่คนไทยยังเข้าใจไม่ตรงกันในตอนนี้
สิ่งต่างๆ ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ใน social media เราอาจจะคิดว่าเป็นของฟรี แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเจ้าของ การใช้ในบางลักษณะจะมีข้อยกเว้น แต่มีมากมายที่ถือว่าเป็นการละเมิด แต่เราอาจจะคิดว่าก็ไม่เห็นมีใครมาว่าอะไร เพราะบางครั้งเจ้าของอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือเจ้าของอาจจะคิดว่าถือว่าเป็นการช่วยเผยแพร่”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าของร้านกาแฟร้านหนึ่งใน จ.แพร่ ได้ให้ข้อมูลว่า ระหว่างเปิดร้านตามปกติ มีผู้หญิง 2 คนเข้ามาในร้านสั่งกาแฟดื่ม และจากนั้นมีผู้ชายเข้ามาถามหารีสอร์ตในละแวกใกล้เคียงซึ่งมีการแอบบันทึกเสียงในช่วงเวลาดังกล่าวเอาไว้ หลังจากนั้น เจ้าของร้านได้ออกไปกินข้าว และลูกน้องได้โทร.มาแจ้งว่าถูกตำรวจจับลิขสิทธิ์ เมื่อกลับมาตำรวจให้ไปคุยที่โรงพัก และแจ้งว่าร้านละเมิดลิขสิทธิ์เพลง โดยเจ้าของร้านบอกว่าไม่รู้กฎหมายจึงยอมจ่ายเงินค่าปรับไป 20,000 บาท เพื่อยอมความ
ส่วนทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้ยืนยันว่าเป็นการเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ในมาตรา 27-31 ในลักษณะของการเผยแพร่สู่สาธารณะโดยไม่ได้รับการอนุญาต