xs
xsm
sm
md
lg

“วอลล์สตรีท” ชูเป้า 3 พันล้าน 5 ปีขยาย 20 สาขา-บุกเออีซี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายแมทธิว กิจโอธาน ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ผู้จัดการรายวัน 360 - เผย “วอลล์สตรีทอิงลิช ประเทศไทย” ทำผลการดำเนินงานดีเป็นอันดับ 2 ในโลกด้วยรายได้ 709 ล้านบาทจาก 10 สาขา เป็นรองจีนที่ทำรายได้ 8 พันล้านบาทจาก 66 สาขา กางแผนลงทุน 5 ปีทำรายได้ 3 พันล้านบาท หลังขยาย 20 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ก่อนบุกเข้ากลุ่มประเทศเออีซีที่ใช้ระยะเวลาการบิน 1-1.5 ชั่วโมงเพื่อความสะดวกด้านการเดินทางของผู้สอน

นายแมทธิว กิจโอธาน ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถาบันสอนภาษาอังกฤษ “วอลล์สตรีทอิงลิช” (Wall Street English) เปิดเผยว่า “วอลล์สตรีทอิงลิช” ถือเป็นผู้นำตลาดสถาบันสอนภาษาอังกฤษขนาดใหญ่ในประเทศไทย โดยในปี 2558 สามารถทำรายได้ 709 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาด 35% ขณะที่คู่แข่งที่ใกล้เคียงกันมีส่วนแบ่ง 13% โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 15% หรือประมาณ 845 ล้านบาท

ปัจจุบัน “วอลล์สตรีทอิงลิช” มีทั้งหมด 10 สาขา ได้แก่ สยามฯ, สีลม, ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า, แฟชั่น ไอส์แลนด์, ซีคอนสแควร์, เมกา บางนา, รังสิต, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ประมาณ 500-1,000 ตร.ม. โดยในปี 2558 แต่ละสาขามีผู้เรียนสาขาละประมาณ 1.2 พันคน เฉลี่ยรวมผู้เรียนประมาณ 1.2 หมื่นคน เติบโตขึ้นจากปี 2557 ประมาณ 10% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ในปี 2559 ขณะที่สาขาที่มีผู้เรียนมากที่สุดคือสาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์ ด้วยจำนวน 2 พันคน
สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
นายแมทธิวกล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีแผน 5 ปีในการขยายสาขาให้ได้ครบ 20 สาขาทั้งภายในและภายนอกห้างสรรพสินค้า พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้รวม 3 พันล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนสาขาละ 15-20 ล้านบาท โดยจะพิจารณาพื้นที่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ บางแค, พระราม 2, พระราม 3, พระราม 9 เป็นต้น ส่วนต่างจังหวัดจะเน้นพื้นที่ที่ใช้ระยะเวลาการเดินทางด้วยเครื่องบินภายในระยะเวลา 1-1.5 ชั่วโมง เพื่อความสะดวกของอาจารย์ผู้สอนและการขนย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอน โดยกำลังพิจารณาพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา, ภูเก็ต, อุดรธานี, อุบลราชธานี และพัทยา เป็นต้น

“จากแผน 5 ปียังเตรียมขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับความต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการศึกษาต่อและวางแผนการทำงาน หรือธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเน้นประเทศที่มีเส้นทางการบินระยะสั้น ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมงเช่นกัน”
บรรยากาศการเรียนการสอนภายในห้องเรียน
นายแมทธิวกล่าวด้วยว่า ภาพรวมตลาดสถาบันสอนภาษาอังกฤษจะเติบโตขึ้นประมาณ 5-10% อันเป็นผลมาจากการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งมีผลการวิจัยรายงานว่าคนไทยมีความรู้ภาษาอังกฤษน้อยที่สุดทำให้มีความตื่นตัวในการเรียนรู้เพิ่มเติมมากขึ้น โดยในปี 2559 บริษัทฯ ใช้งบประมาณการตลาด 80 ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของรายได้ โดยเน้นสื่อออนไลน์ 45% การออกบูทและจัดกิจกรรมอีเวนต์ 20-25% ส่วนที่เหลือ 35-40% เป็นการใช้สื่อนอกบ้าน (Out of Home) และอื่นๆ

“วอลล์สตรีทอิงลิช” ยึดแนวทางการดำเนินงานเป็น “ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์” (Lifestyle Center) เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผู้เรียนมากกว่าการเป็นเพียงสถาบันสอนภาษา โดยเน้นจุดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพการสอนมากกว่าราคาซึ่งมีทั้งหมด 20 Level คิดคอร์สละ 8 หมื่นบาท (ประมาณ 6 Level) ใช้เวลาเรียน 1-1.5 ปี โดยในประเทศไทยถือว่ามีผลการดำเนินงานดีเป็นอันดับ 2 ในโลกรองจากประเทศจีนที่มี 66 สาขา ทำรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท”

“ในส่วนของผู้เรียนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มอายุ คือ กลุ่มนักเรียนอายุ 15-22 ปี ครองส่วนแบ่งผู้เรียน 40% กลุ่มวัยเริ่มทำงาน 20-29 ปี ส่วนแบ่ง 29% และกลุ่มวัยทำงาน อายุ 29 ปีขึ้นไป ส่วนแบ่ง 34% โดยมีกลุ่มผู้เรียนที่มาจากการบอกต่อประมาณ 30% ขณะที่คู่แข่งมีส่วนแบ่งในกลุ่มนักเรียน 10% และกลุ่มวัยทำงาน 13%” นายแมทธิวกล่าวในที่สุด



กำลังโหลดความคิดเห็น