ผู้จัดการรายวัน 360 - “เถ้าแก่น้อย” เดินหน้าเต็มสูบบุกตลาดสแน็กสาหร่ายเมืองไทยช่วงครึ่งปีหลัง อัดงบคลอดขนมสาหร่ายพันธุ์กรอบ “ซีเกิล” และสาหร่ายอบ “Bigsheet อบ” หวังขยายฐานผู้บริโภค-เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สุดหล่อและสุดฮาแห่งปี “ฌอห์ณ จินดาโชติ-แก๊งไดอารี่ตุ๊ดซี่” มั่นใจโกยยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ 6 เดือนหลัง
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เถ้าแก่น้อยได้ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมควบคู่กับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 แบรนด์ ประกอบด้วย “ซีเกิล” ขนมสาหร่ายพันธุ์กรอบที่บรรจุภัณฑ์แบบถ้วย และ “Bigsheet อบ” สาหร่ายอบสไตล์เถ้าแก่น้อย ที่มีแคลอรีเบาๆ เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่รักสุขภาพชอบทานอาหารที่มีประโยชน์และชอบออกกำลังกาย
สำหรับการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 แบรนด์ เพื่อขยายฐานของผู้บริโภคและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้นซึ่งทั้ง 2 แบรนด์จะมีรสชาติและรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเดิม โดย “ซีเกิล” ขนมพันธุ์ใหม่ที่ผสานความกรุบกรอบของขนมอบกรอบกับความอร่อยที่มีประโยชน์ของสาหร่ายก่อกำเนิดเป็นสาหร่ายกรอบพันธุ์ใหม่ที่ “กรอบเต็มคำ เคี้ยวมันส์เต็มที่” ประสบการณ์ความอร่อยแนวใหม่ในบรรจุภัณฑ์แบบถ้วยสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกเพลิดเพลินและคุณประโยชน์ และ “Bigsheet อบ” สาหร่ายอบสไตล์เถ้าแก่น้อยที่มีแคลอรีเบาๆ สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ
ทั้งนี้ จะวางจำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ฯลฯ และเทรดิชันนัลเทรด หรือร้านโชวห่วย ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป เพื่อรุกตลาดตลาดสแน็กประเภทสาหร่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของเถ้าแก่น้อยเป็น 70% จากเดิมอยู่ที่ 65%
นายอิทธิพัทธ์กล่าวต่อว่า เถ้าแก่น้อยได้เตรียมแผนทั้งด้านกลยุทธ์และแผนการตลาด โดยจะใช้งบการตลาดในปี 2559 เพื่อสร้างการรับรู้ในผลิตภัณฑ์ขนมสาหร่ายพันธุ์กรอบ “ซีเกิล” และ “Bigsheet อบ” สาหร่ายอบสไตล์เถ้าแก่น้อยผ่านช่องทางออนไลน์, ดิจิตอลทีวี, อีเวนต์ และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ณ จุดขาย มั่นใจว่ายอดขายผลิตภัณฑ์สาหร่ายใหม่ทั้ง 2 แบรนด์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
“ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเถ้าแก่น้อยส่งออกไป 35 ประเทศทั่วโลกและยังคงขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นอันดับหนึ่งเพราะมียอดขายเติบโตสูงสุด ซึ่งในอนาคตอาจมีแผนตั้งโรงงานผลิตหากมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการรุกตลาดจีนเป็นการตอกย้ำถึงนโยบายในการก้าวสู่การเป็น Global Brand อย่างแท้จริง จากปัจจุบันที่เถ้าแก่น้อยก้าวสู่การเป็น Asian Brand” นายอิทธิพัทธ์กล่าว
นายอิทธิพัทธ์กล่าวในตอนท้ายว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเลือก “ฌอห์ณ จินดาโชติ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ขนมสาหร่ายพันธุ์กรอบ “ซีเกิล” เนื่องจาก “ฌอห์ณ” เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งมีความโดดเด่น สนุกสนานร่าเริง เป็นตัวของตัวเองและมีความมั่นใจในสูง ถือว่ามีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ขณะที่ “แก๊งไดอารี่ตุ๊ดซี่” ได้รับคัดเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ “Bigsheet อบ” สาหร่ายอบสไตล์เถ้าแก่น้อย เพราะมีบุคลิกที่มีความทันสมัย มีความมั่นใจ ชอบสังสรรค์ ใส่ใจสุขภาพ และชอบกินอาหารที่มีประโยชน์ ถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
