ผู้จัดการรายวัน 360 - โรงพยาบาลนครธนลั่นปีนี้โต 15% จากปี 58 ที่โตแค่ 6% ซุ่มพัฒนาระบบรักษาและศูนย์การแพทย์เฉพาะทางแบบครบวงจร หวังเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของโซนกรุงเทพฯ ตะวันตกในอีก 3 ปี
นายแพทย์ วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาโรงพยาบาลนครธนมีการพัฒนาด้านการดูแลรักษาและบริการให้มีมาตรฐานอยู่ตลอด โดยสร้างทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นศูนย์หัวใจ ศูนย์รักษ์เต้านม ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์สุขภาพนครธนอายุวัฒนา และศูนย์ภูมิแพ้ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในปี 2558 โรงพยาบาลฯ มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องคือ 6.68% โดยมีผู้ป่วยนอก (OPD) เข้ารับบริการเฉลี่ย 3 หมื่นคนต่อเดือน เติบโต 13% ส่วนผู้ป่วยใน (IPD) มีอัตราครองเตียง 100 เตียงต่อวัน เติบโต 20% นอกจากนี้ สัดส่วนของผู้ใช้บริการต่างชาติยังเติบโตขึ้นด้วย
“ปีนี้เป็นปีที่โรงพยาบาลนครธนให้บริการครบรอบ 20 ปี จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาศูนย์การแพทย์เฉพาะทางให้มีนวัตกรรมการรักษาและบริการที่มีประสิทธิภาพรอบด้าน พร้อมกับพัฒนาศูนย์สุขภาพเด็กแบบครบวงจร ที่มีคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกทารกแรกเกิด จิตวิทยา การฝึกพูด เป็นต้น พร้อมกับมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ แยกเด็กป่วยและเด็กสุขภาพแข็งแรงออกจากกัน พร้อมกับอยู่ในระหว่างการปรับพื้นที่เพื่อแยกออกจากแผนกอายุรกรรมให้มีลักษณะเป็นศูนย์ที่มีบริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดในการเป็นสถานบริการสุขภาพที่ผสมผสานความก้าวหน้าทางการแพทย์ และการบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ โรงพยาบาลนครธนจึงได้ผสมผสานการรักษาโดยให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการรักษา ทั้งการแพทย์ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และการดูแลสุขภาพด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) อีกทั้งยังได้นำแนวทางปฏิบัติการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) มารักษาผู้ป่วยที่มีโรคร้ายแรง หรือระยะสุดท้ายให้มีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ ผ่านการรักษาจากทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแนวทางการพัฒนาด้านนี้จะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว รวมทั้งสร้างพลังให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกคน
นายแพทย์ วิโรจน์เปิดเผยเพิ่มเติมถึงเป้าหมายของโรงพยาบาลว่า ในปี 2559 ผลประกอบการของโรงพยาบาลจะเติบโตขึ้น 15% และเป้าหมายต่อไปคือ การพัฒนาระบบการรักษาและบริการให้ครบวงจรและมีประสิทธิภาพรอบด้านอย่างสมบูรณ์แบบและเข้าถึงทุกความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลอันดับ 1 ในเขตกรุงเทพฯ ตะวันตก ภายใน 3 ปีข้างหน้า
นายแพทย์ วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาโรงพยาบาลนครธนมีการพัฒนาด้านการดูแลรักษาและบริการให้มีมาตรฐานอยู่ตลอด โดยสร้างทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นศูนย์หัวใจ ศูนย์รักษ์เต้านม ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์สุขภาพนครธนอายุวัฒนา และศูนย์ภูมิแพ้ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในปี 2558 โรงพยาบาลฯ มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องคือ 6.68% โดยมีผู้ป่วยนอก (OPD) เข้ารับบริการเฉลี่ย 3 หมื่นคนต่อเดือน เติบโต 13% ส่วนผู้ป่วยใน (IPD) มีอัตราครองเตียง 100 เตียงต่อวัน เติบโต 20% นอกจากนี้ สัดส่วนของผู้ใช้บริการต่างชาติยังเติบโตขึ้นด้วย
“ปีนี้เป็นปีที่โรงพยาบาลนครธนให้บริการครบรอบ 20 ปี จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาศูนย์การแพทย์เฉพาะทางให้มีนวัตกรรมการรักษาและบริการที่มีประสิทธิภาพรอบด้าน พร้อมกับพัฒนาศูนย์สุขภาพเด็กแบบครบวงจร ที่มีคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกทารกแรกเกิด จิตวิทยา การฝึกพูด เป็นต้น พร้อมกับมีการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ แยกเด็กป่วยและเด็กสุขภาพแข็งแรงออกจากกัน พร้อมกับอยู่ในระหว่างการปรับพื้นที่เพื่อแยกออกจากแผนกอายุรกรรมให้มีลักษณะเป็นศูนย์ที่มีบริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดในการเป็นสถานบริการสุขภาพที่ผสมผสานความก้าวหน้าทางการแพทย์ และการบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ โรงพยาบาลนครธนจึงได้ผสมผสานการรักษาโดยให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการรักษา ทั้งการแพทย์ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และการดูแลสุขภาพด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) อีกทั้งยังได้นำแนวทางปฏิบัติการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) มารักษาผู้ป่วยที่มีโรคร้ายแรง หรือระยะสุดท้ายให้มีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ ผ่านการรักษาจากทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแนวทางการพัฒนาด้านนี้จะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว รวมทั้งสร้างพลังให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกคน
นายแพทย์ วิโรจน์เปิดเผยเพิ่มเติมถึงเป้าหมายของโรงพยาบาลว่า ในปี 2559 ผลประกอบการของโรงพยาบาลจะเติบโตขึ้น 15% และเป้าหมายต่อไปคือ การพัฒนาระบบการรักษาและบริการให้ครบวงจรและมีประสิทธิภาพรอบด้านอย่างสมบูรณ์แบบและเข้าถึงทุกความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง เพื่อก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลอันดับ 1 ในเขตกรุงเทพฯ ตะวันตก ภายใน 3 ปีข้างหน้า
