ผู้จัดการรายวัน 360 - NPP เผยงบ Q1/59 เติบโตดี รายได้ กำไร ปรับตัวเพิ่ม ธุรกิจในเครือพร้อมใจปั๊มยอดขาย บรรจุภัณฑ์จีบติดลูกค้าใหม่ 3 ราย ออเดอร์ขยายต่อเนื่อง ธุรกิจอาหาร A&W และ MIYABIกระแสตอบรับดี เดินหน้าเปิดสาขาเพิ่ม เผยมีแผนลงทุนร้าน QSR เพิ่ม ขณะที่ธุรกิจสื่อเร่งทำตลาด ขายพื้นที่โฆษณา มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 1,000 ล้านบาท
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (NPP) ผู้ดำเนินธุรกิจ ผลิต จำหน่าย บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีความยืดหยุ่น และขวด PET บรรจุภัณฑ์พลาสติกคุณภาพสูง และถาดอาหาร รวมทั้งลงทุนในธุรกิจอาหาร และธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณา เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/59 ว่า บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 148.61 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 58.92 ล้านบาท หรือเพิ่มประมาณ 152.22% และมีผลขาดทุน 36.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 67.26 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 45.24%
ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นเพราะธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าเดิมเพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจอาหารที่บริษัทได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์รับรู้รายได้เข้ามาทันทีที่ได้รับสิทธิ์ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา
ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีปีนี้ โดยในไตรมาส 2 มีลูกค้าใหม่เพิ่มจำนวน 3 ราย จะเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ดังกล่าวไตรมาส 3 และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่อีก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ด้านธุรกิจอาหาร หลังจากที่บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NPP ได้สิทธิ์บริหาร A&W และ MIYABI แล้ว ได้ปรับปรุงและเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ปรับปรุงสาขาเดิมของ A&W แล้วจำนวน 9 สาขา เปิดสาขาใหม่จำนวน 3 สาขา ตั้งเป้าปีนี้ A&W จะมี 30 สาขา ขณะที่ร้าน MIYABI ได้ปรับปรุงรูปแบบการขายการบริการของสาขาเดิมจำนวน 5 แห่ง เป็นอาหารญี่ปุ่นผสมผสานกับบุฟเฟต์ปิ้งย่าง ซึ่งในปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการเจรจาที่จะลงทุนกับร้านประเภท Quick Service Restaurant (QSR) ที่มีสาขา และมียอดขายอยู่แล้ว เพื่อเข้ามาเพิ่มศักยภาพของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
ส่วนธุรกิจให้เช่าพื้นที่โฆษณาเป็นการดำเนินงานของบริษัท นิปปอนแพ็ค เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NPP โดยได้รับสิทธิในการดำเนินงานจากบริษัท ปตท. บริการธุรกิจค้าปลีก จำกัด เป็นระยะเวลา 12 ปี เพื่อดำเนินการติดตั้งสื่อโฆษณาภายในร้านค้าปลีก "จิฟฟี่" แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังทำการตลาดเพื่อให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าและเอเยนซี
“ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีของบริษัท เพราะทุกธุรกิจในเครือสามารถทำยอดขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการที่บริษัทจะพลิกผลประกอบการกลับมาเป็นกำไร ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจว่าหากสามารถดำเนินธุรกิจได้ตรงตามแผนที่วางไว้ ในปีนี้จะสามารถทำรายได้ 1,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสรุพงษ์กล่าว