ผู้จัดการรายวัน 360 - NPP เผยแนวโน้มปี 59 เติบโตทั้งเครือ เดินหน้าเพิ่มออเดอร์บรรจุภัณฑ์และเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ ขณะที่ลุยเปิดธุรกิจอาหาร 2 แบรนด์ดัง A&W และ MIYABI มั่นใจกระแสตอบรับดี พร้อมรับรู้รายได้ทันที คาดรายได้รวมปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20%
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจในเครือของบริษัทประกอบด้วย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจอาหาร และธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณา โดยในปี 2558 มีรายได้รวม 350.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 217.81 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 139.26 ล้านบาท
สาเหตุที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนเนื่องจากมีการลงทุนโดยการเข้าไปถือหุ้น 95% ใน บริษัท พร้อมแพค จำกัด ผู้ผลิตถาดบรรจุอาหาร และถือหุ้น 45% ในบริษัท ไทยลักซ์ ฟู้ด โปรดักท์ จำกัด รวมไปถึงการร่วมทุนกับ บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อตั้ง บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในการทำธุรกิจร้านอาหารเพื่อสร้างศักยภาพให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
“ในปี 2559 NPP วางเป้าหมายผลประกอบการพลิกทำกำไร โดยเป็นผลจากการขยายตัวของรายได้จากทุกธุรกิจในเครือที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการลงทุนจัดโครงสร้างทางธุรกิจต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงต่อจากนี้จึงจะเป็นการรับรู้รายได้และกำไรทั้งจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจอาหาร และธุรกิจสื่อโฆษณา โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 20%”
นายสุรพงษ์กล่าวด้วยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในปี 2559 ยังสามารถเติบโตในเกณฑ์ดี บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะมุ่งเน้นขยายปริมาณการผลิตบรรจุภัณฑ์ ถาดพลาสติก และขวด PET ให้รองรับการใช้งานของกลุ่มลูกค้าเดิมมากขึ้น รวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ อีกทั้งยังจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มทั้งด้านคุณภาพและความสวยงาม โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีนวัตกรรมด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม อาทิ ถาดอาหารที่ผลิตจากพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ตลอดจนพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องจักรให้ทันสมัยรองรับเทรนด์ของบรรจุภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนและพัฒนาตลอด โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 20%
ส่วนธุรกิจอาหารซึ่งมีแบรนด์ภายใต้การบริหารคือ A&W และ MIYABI จะมีการขยายสาขาเพิ่มเติมในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งยังถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโตสูงสุดของเครือ NPP ในปี 2559 เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรอยู่ในเกณฑ์ดี มีโอกาสในการขยายธุรกิจได้ค่อนข้างรวดเร็ว สามารถขยายตัวได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ และสามารถรับรู้รายได้ทันที
“ในปีที่ผ่านมารายได้ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์และขวด PET มีการเติบโตเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีออเดอร์เพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม ขณะที่รายได้จากการขายพื้นที่สื่อโฆษณามีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในปีนี้ยังจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากทุกธุรกิจในเครือ อีกทั้งบริษัทฯ ยังเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารตั้งแต่ไตรมาสแรกเป็นต้นไป” นายสุรพงษ์กล่าว