xs
xsm
sm
md
lg

ประชุมรัฐสภาภูมิภาคยูเรเซียครั้งที่ 1 ถกสันติภาพร่วมมือการค้า-ท่องเที่ยว-พลังงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ในการประชุมประธานรัฐสภาในภูมิภาคยูเรเซีย ครั้งที่ 1 ที่ประชุมซึ่งประกอบด้วย ประธานรัฐสภาและผู้แทนรัฐสภารวม 19 ประเทศ ได้แก่ สหพันธรัฐรัสเซีย เกาหลี ไทย จีน อินเดีย อิหร่าน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มองโกเลีย เบลารุส อาร์มาเนีย อาร์เซอร์ไบจาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน ได้ร่วมประชุมและอภิปรายกันในหัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างรัฐสภาเพื่อความมั่งคั่งร่วมกันของประเทศในภูมิภาคยูเรเซียในศตวรรษที่ 21” โดยมีประเด็นสำคัญครอบคลุมเรื่องการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐสภาเพื่อการสร้างสันติภาพ และความมั่งคั่ง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามพรมแดนร่วมกัน

ทั้งนี้ ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้แสดงคำกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาในภูมิภาคยูเรเซีย ครั้งที่ 1 โดยมีสาระสำคัญเป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวทางในการบรรลุเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้จากมุมมองของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

โดยสาระสำคัญของคำกล่าวประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติสามารถสรุปได้ 3 ประการ คือ 1. การสร้างความร่วมมือทางนวัตกรรมจะเป็นกุญแจสำคัญอันนำไปสู่ความมั่งคั่งร่วมกันของภูมิภาค และเป็นกุญแจสำคัญในการบูรณาการเป้าหมายต่างๆ ของการประชุมนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งได้แก่ 1. การบรรลุสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม 2. การปกป้องสิ่งแวดล้อม และ 3. การขยายหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกัน

2. นวัตกรรมเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างความมั่งคั่งในทุกระดับของการพัฒนาขณะนี้ ประเทศไทยกำลังพยามยามเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจที่อิงการผลิตและขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพ ไปสู่เศรษฐกิจที่อิงการสร้างคุณค่าและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การสร้างความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนวัตกรรม ตลอดจนการสร้างสมรรถนะร่วมกันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะอำนวยให้การเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

3. รัฐสภาต่างๆ มีบทบาทอย่างสูงในกระบวนการสร้างความมั่งคั่งนี้ ในฐานะผู้กำหนดบริบทในการดำเนินการของฝ่ายบริหาร เนื่องจากรัฐสภาเป็นองค์กรที่ตรากฎหมายและพิจารณาอนุมัติงบประมาณแผ่นดิน หากปราศจากโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมายจากฝ่ายนิติบัญญัติฝ่ายบริหารก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ และความมั่งคั่งก็ย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ก่อนปิดการประชุมประธานรัฐสภาในภูมิภาคยูเรเซีย ครั้งที่ 1 ณ กรุงมอสโก ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมและมีมติให้การรับรองคำแถลงการณ์ร่วม ซึ่งมีลักษณะเป็นการผนวกรวมประเด็นต่างๆ จากคำกล่าวของคณะผู้แทนทุกคณะ ซึ่งมีสาระสำคัญครอบคลุมถึงเรื่องการสร้างสันติภาพ การสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม การแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามพรมแดนร่วมกัน ความร่วมมือระหว่างกันในการป้องกันภัยก่อการร้ายตลอดจนการแสดงความเห็นพ้องที่จะจัดการประชุมนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้การประสานความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของประเทศในภูมิภาคยูเรเซียเป็นไปอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยประธานการประชุมร่วมจากประเทศเกาหลีได้ขอเป็นผู้ดำเนินการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งถัดไปในปี พ.ศ. 2560 โดยจะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ และประธานประเทศสมาชิกรัฐสภาทั้ง 19 ชาติเห็นร่วมกันว่าจะเข้าร่วมประชุมในครั้งหน้าและครั้งต่อๆ ไปเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มยูเรเซียที่ได้ผลสำเร็จเป็นรูปธรรมในอนาคต

นอกจากนี้ นายสมชาย แสวงการ เลขาธิการกลุ่มมิตรภาพไทย-รัสเซีย และนายวรพล โสคติยานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เข้าร่วมประชุมร่วมกับสมาชิกสภาดูมา แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย นำโดย นายเซอร์กี เอ กาวิลอฟ และสมาชิกรัฐสภา กลุ่มมิตรภาพรัสเซีย-ไทย รวม 4 คน ซึ่งเนื้อหาทั้งสองฝ่ายตกลงความร่วมมือกันที่จะเร่งเพิ่มความสัมพันธ์ไทย-รัสเซียที่มีต่อกันมายาวนนานกว่า 120 ปีให้กระชับยิ่งขึ้นในทุกด้าน ทั้งในด้านความร่วมมือด้านพลังงาน การท่องเที่ยว การศึกษา การป้องกันก่อการร้าย การพัฒนาเศรษฐกิจและการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน และในโอกาสที่จะครบรอบความสัมพันธ์ 120 ปีไทย-รัสเซีย ในเดือนกรกฎาคม 2560 นั้น รัฐสภาทั้งสองจะจัดงานเฉลิมฉลองเป็นพิเศษขึ้น และตัวแทนสมาชิกรัฐสภาทั้งสองประเทศตกลงที่จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำรัฐสภาระดับสูงและสมาชิกรัฐสภากลุ่ม มิตรภาพทั้งสองประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการสานต่อความร่วมมือที่ได้หารือไว้ให้เกิดความต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ คณะผู้แทนฝ่ายไทยยังได้แจ้งให้ผู้แทนฝ่ายรัฐเซียทราบถึงการที่การบินไทยจะเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างไทย-รัฐเซียอีกครั้งในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อร่วมฉลองปีที่ 120 แห่งความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย และเพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่นิยมท่องเที่ยวและชื่นชอบประเทศไทยได้กลับมาเพิ่มจำนวนให้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปีเช่นที่่ผ่านมา โดยทางฝ่ายไทยยินดีที่จะประสานเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียในขณะท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น