“การบินไทย” ชี้แจงเหตุเที่ยวบินทีจี 434 เส้นทาง “จาการ์ตา-กรุงเทพฯ” ตกหลุมอากาศเหนือน่านฟ้าสิงคโปร์ เมื่อ 11 เม.ย. ผู้โดยสารบาดเจ็บ 1 คน ลูกเรือ 5 คน นำส่งโรงพยาบาล และพร้อมดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ระบุเหตุสุดวิสัยจากสภาพอากาศแปรปรวน
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีเที่ยวบินทีจี 434 ทำการบินด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ออกจากท่าอากาศยานกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 11 เมษายน 2559 เวลา 12.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 72 คน นักบิน 2 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 12 คน มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่บริเวณเหนือน่านฟ้าประเทศสิงคโปร์ ได้เกิดเหตุการณ์สุดวิสัยเครื่องบินประสบสภาพอากาศแปรปรวน (Air Turbulence) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยตามที่ได้รับรายงานจำนวน 6 คน ได้แก่ ผู้โดยสาร 1 คน และลูกเรือจำนวน 5 คน ซึ่งกัปตันได้ปฏิบัติการบินตามมาตรฐานความปลอดภัยและควบคุมเครื่องบินเดินทางต่อและลงจอดอย่างปลอดภัยในเวลา 15.40 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ พนักงานการบินไทยฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เร่งดูแลและนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้โดยสารอื่นๆ ได้รับการดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างดีผ่านตามเส้นทางปกติของอาคารผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ ต้องขออภัยต่อผู้โดยสารในเหตุการณ์สุดวิสัยที่เกิดขึ้น และบริษัทฯ ได้ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้โดยสารและพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บทุกคน และเมื่อแพทย์ตรวจร่างกายแล้ว ได้อนุญาตให้ผู้ได้รับบาดเจ็บกลับบ้านได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (11 เม.ย. 59)
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการเปิดเผยโดยเฟซบุ๊กของ Kru P'Birth ซึ่งได้โพสต์ถึงเหตุการณ์บนเที่ยวบินการบินไทย พร้อมรูปภาพประกอบ 3 รูป โดยระบุถึงเหตุเครื่องบินของการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 434 มีเนื้อหาถึงอุบัติเหตุตกหลุมอากาศระหว่างการเดินทางของเที่ยวบินการบินไทย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ทีจี 434 จาการ์ตา-กรุงเทพมหานคร
