ผู้จัดการรายวัน 360 - สถาบันที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพองค์กรระดับโลก “เดล คาร์เนกี” ฉายภาพเทรนด์คนเอเชียให้ความสำคัญด้านการพัฒนาตนเอง และธุรกิจ ส่งผลทำสัดส่วนรายได้ในเอเชียสูงถึง 35% เผยไทยติดอันดับตลาดเติบโตสูง เตรียมแผนขยายตลาดเพิ่มผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมเจาะกลุ่มเด็ก และวัยรุ่นอายุ 16-22 ปี
ดร.ปรียกร มิมะพันธ์ กรรมการผู้จัดการ “เดล คาร์เนกี” (DALE CARNEGIE) ประเทศไทย สถาบันที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร เปิดเผยว่า ในปี 2558 สถาบันฯ มีผลประกอบการเติบโตขึ้นถึง 15% และคาดว่าในปี 2559 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% โดยปัจจุบัน มีลูกค้าองค์กรประมาณ 90% และลูกค้าบุคคล 10% โดยส่วนใหญ่เป็นองค์กรภาคเอกชนที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ และบริษัทข้ามชาติกว่า 100 องค์กร 90% และราชการ 10% คิดเป็นจำนวนผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 1 พันรายต่อปี
ปัจจุบัน สถาบันฯ มีสาขากว่า 90 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้การฝึกอบรมด้วยภาษาต่างๆ ถึง 30 ภาษาในหลักสูตรทั่วไป (Standard Program) มากกว่า 100 หลักสูตร ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลักสูตรที่เป็นทักษระที่มีความจำเป็นสำหรับกลุ่มคนทุกวัยในลักษณะ Customize Corporate Solutions ได้แก่ การพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development) การสร้างความผูกพันในทีมงาน (Team Member Engagement) การนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ (Presentation Effectiveness) การขายอย่างมีประสิทธิภาพ (Sale Effectiveness) การให้บริการลูกค้า (Customer Services) และการพัฒนากระบวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Process Improvement)
“แนวทางการพัฒนาตนเองแบบ Self-Help ทั้งในรูปแบบของหนังสือ และหลักสูตรการพัฒนาตนเองเป็นที่นิยม และได้รับการยอมรับจากคนเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สถาบันฯ มีรายได้มากกว่า 35% จากการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชีย โดยประเทศที่มีผลประกอบการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง และทำรายได้หลักให้สถาบันฯ คือ ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง และไทย”
ในแต่ละปี สถาบันฯ ใช้งบประมาณการตลาด 5% จากรายได้รวม โดยจะเน้นสื่อออนไลน์เป็นหลักประมาณ 50% นอกจากนั้น จะเป็นการจัดกิจกรรมโรดโชว์ ร่วมงานอีเวนต์เกี่ยวกับการศึกษา ตลอดจนการจัดงานในลักษณะโอเพ่น เฮาส์ เพื่อสร้างการรับรู้และแนะนำหลักสูตรต่างๆ สู่กลุ่มเป้าหมาย โดยที่ผ่านมา ในแต่ละปีจะมีกลุ่มลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำ (Repeat) ประมาณ 60-70%
ดร.ปรียกร กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2559 สถาบันฯ มีแผนขยายตลาดประเทศไทยด้วย 2 แนวทางคือ การให้การอบรมผ่านช่องทางดิจิตอลด้วยการใช้เทคโนโลยี และแพลตฟอร์มที่จำลองบรรยากาศการฝึกอบรมเสมือนจริงผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งถือเป็นช่องทางการสื่อสารหลักที่เข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้าง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในกลางปี 2559 ส่วนอีกแนวทางหนึ่งเป็นการเพิ่มหลักสูตรสำหรับเด็ก และวัยรุ่นอายุ 16-22 ปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้มีศักยภาพด้านการแข่งขันของตลาดแรงงานในอนาคต คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณเดือน ก.ค.59 พร้อมตั้งเป้าให้การฝึกอบรมภายในปีแรกประมาณ 50 คน
“ทุกๆ หลักสูตรของ เดล คาร์เนกี จะประกอบ ด้วยแนวทางการพัฒนาบุคลากร 70-20-10 คือ การฝึกฝนในงานทำให้เกิดเป็นทักษะได้สูงถึง 70% การได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทำให้เกิดเป็นทักษะได้สูงถึง 20% และการพัฒนาความรู้ หรือฝึกอบรมจะทำให้เกิดเป็นทักษะได้ 10% โดยหัวใจหลักคือ เวลาในการเรียนที่เน้นการเตรียมแผนการพัฒนา การฝึกฝนลงมือทำ และการได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากวิทยากรเพื่อให้เกิดเป็นทักษะที่คาดหวัง 70% การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้ารับการอบรมเพื่อให้เกิดมุมมองที่แตกต่าง 20% และการให้ความรู้ด้านทฤษฎี หลักการ และวิธีการต่างๆ 10%”