xs
xsm
sm
md
lg

“เซเรบอส” ปูพรมตู้หยอดเหรียญ ขาย “แบรนด์รังนก-ซุปไก่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“กชกร แก้วศรชัย” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - “แบรนด์” ซุปไก่สกัดเดินหน้ารุกขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ผนึก “รีฟิล-วีจีไอ” ประเดิมขายผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญบน 5 สถานีบีทีเอส ก่อนปูพรมให้ครบทุกสถานี

นางสาวกชกร แก้วศรชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มซุปไก่สกัดและรังนกตรา “แบรนด์” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสกัดเข้มข้นในไทยมีมูลค่ามากกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท คาดว่าในปี 2559 จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10%

บริษัทฯ ยังคงมีการขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ ตลอดเวลาเพื่อเป็นการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยในส่วนของช่องทางการจำหน่ายนั้น บริษัทฯ วางเป้าหมายไว้ว่าภายในช่วง 3 ปีจากนี้ (2559-2561) จะมีการเปิดตัวช่องทางใหม่ๆ เพื่อขยายฐานตลาดมากที่สุด

ปัจจุบันนี้มีช่องทางจำหน่ายหลากหลายอยู่แล้ว เช่น โมเดิร์นเทรด เทรดิชันนัลเทรด และตู้แช่ต่างๆ ซึ่งยังคงเป็นสัดส่วนช่องทางหลัก ส่วนช่องทางออนไลน์เพิ่งเริ่มไม่นานและมีสัดส่วนเพียง 5% เท่านั้น แต่จะมีความหมายมากขึ้นในอนาคต

ล่าสุดได้เปิดตัวตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญเป็นครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้โดยเฉพาะ โดยร่วมมือกับ บริษัท รีฟิล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญจากประเทศญี่ปุ่น และบริษัท วีจีไอ โกลบอลมีเดีย จำกัด ผู้รับสิทธิ์สัมปทานพื้นที่ค้าปลีกและโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อวางจำหน่ายตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ โดยเริ่มต้นที่ 5 สถานีบีทีเอส คือ หมอชิต อ่อนนุช พญาไท ช่องนนทรี และแบริ่ง

ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญดังกล่าวยังถือเป็นสื่อโฆษณานอกสถานที่ที่สามารถเข้าถึงผู้เข้ามาใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน อายุ 25-39 ปี เพราะเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูงที่ใส่ใจสุขภาพและความงาม ทั้งยังมีความถี่ในการดื่มผลิตภัณฑ์ซุปไก่สกัดและพรุนสกัดเข้มข้นสูงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเตรียมที่จะขยายการวางตู้หยอดเหรียญอัตโนมัตินี้ให้ครบทุกสถานีบีทีเอสในอนาคต

บริษัทฯ ยังวางแผนขยายตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วย เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือชุมชนที่มีประชากรอาศัยหนาแน่น โดยเชื่อว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญจะได้รับความนิยมแพร่หลายและกลายเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าที่สำคัญสำหรับเครื่องดื่ม หรือสินค้าประเภทอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม สอดคล้องกับที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นมาแล้ว

“พฤติกรรมของผู้บริโภคช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ผู้ประกอบการต้องปรับตัวด้านการทำตลาดให้ทัน โดยเฉพาะช่องทางจำหน่ายที่ต้องเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีเวลาในการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากขึ้น” นางสาวกชกรกล่าว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวแคมเปญ “แบรนด์ สู้ไปกับทุกอาชีพ” เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านทางไวรัลคลิปสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดจาก “แบรนด์ ซุปไก่สกัด” 85-90% “แบรนด์ รังนก” 65-70% “วีต้า พรุน” 70% และ “วีต้า เบอร์รี่” 30%



กำลังโหลดความคิดเห็น