ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” สานต่อโครงการ ASEAN Rising Trade Show ปีที่ 2 เร่งส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก หวังใช้เป็นเวทีเชื่อมการค้าอาเซียน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น “ชาติการค้า” สร้างรายได้ปี 59 กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) ถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งยังเป็นเวทีเชื่อมการค้าและการลงทุนในระดับอนุภาคและภูมิภาคอาเซียน ช่วยส่งเสริมให้เกิดห่วงโซ่มูลค่า (Global Value Chain) ทั้งด้านการค้าและการลงทุนต่ออุตสาหกรรมหลักของประเทศ สร้างโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้ขายที่มีศักยภาพของอาเซียนได้มาพบกัน
การเติบโตของอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติที่มั่นคงและยั่งยืนยังจะเป็นการช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นชาติการค้า (Trading Nation) ตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาล โดยเฉพาะ 5 อุตสาหกรรมพื้นฐานตามแนวโน้มการเติบโตของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์, พลังงาน, อาหารและสินค้าเกษตร, สุขภาพ และโครงสร้างพื้นฐาน
“โครงการ ASEAN Rising Trade Show หรือ ART ดำเนินงานภายใต้แนวคิด Think Big, Go Beyond ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เพื่อช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติอาเซียน ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์การยกระดับงานแสดงสินค้านานาชาติและการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อดำเนินงานด้านการตลาด”
“ทีเส็บ” ได้พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าตามแนวทางนโยบายประชารัฐของรัฐบาล โดยในปี 2559 ได้ขยายความร่วมมือและการสนับสนุนไปยังหน่วยงานภาครัฐทั้ง 5 อุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและโอกาสทางการแข่งขันในระดับภูมิภาค ส่วนภาคเอกชนได้ขยายความร่วมมือและให้การสนับสนุนภาคเอกชน หน่วยงาน และสมาคมในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ มุ่งเน้นการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน กำหนดทิศทางการตลาดและการสนับสนุนให้ตรงต่อความต้องการของอุตสาหกรรมและภาคเอกชนมากที่สุด
“ทีเส็บเชื่อมั่นว่าโครงการ ART จะช่วยทำให้งานแสดงสินค้าใน 5 อุตสาหกรรมดังกล่าวสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในการก้าวสู่การเป็นงานในระดับภูมิภาคอาเซียนและสร้างคุณค่าให้ผู้จัดงานแสดงสินค้า รวมถึงขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 5 อุตสาหกรรม ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการแสดงสินค้าของภูมิภาค โดยทีเส็บตั้งเป้าหมายสำหรับปี 2559 ว่าจะสามารถต้อนรับผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ 1.91 แสนคน สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทย 15,650 ล้านบาท” นางศุภวรรณกล่าวในตอนท้าย
ด้าน นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแสดงสินค้านานาชาติ “ทีเส็บ” กล่าวว่า “ทีเส็บ” กำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการตามโครงการ ART ไว้ 3 ปี (2558-2560) โดยคาดการณ์ผลสำเร็จด้านอัตราการเติบโตของจำนวนนักธุรกิจในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติจากกลุ่มประเทศอาเซียนเฉลี่ยร้อยละ 30 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับวาระของการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยหลังจากครบ 3 ปีแล้ว “ทีเส็บ” ยังคงจะริเริ่มโครงการใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับภาวะและแนวโน้มของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าในช่วงหลังจากปี 2560 ต่อไป
ในปี 2558 มีงานแสดงสินค้านานาชาติภายใต้การสนับสนุนของโครงการฯ รวม 12 งาน โดยในส่วนของจำนวนนักเดินทางธุรกิจต่างชาติที่เดินทางมาร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติทั้งหมดเติบโตร้อยละ 31.90 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า ขณะที่ตัวเลขนักเดินทางธุรกิจต่างชาติจากกลุ่มประเทศอาเซียนมีการเติบโตมากกว่าอัตราการเติบโตปกติร้อยละ 45.30 ก่อให้เกิดการขยายความร่วมมือและเชื่อมโยงธุรกิจให้แก่งานที่ได้รับการสนับสนุนไปยังสมาคมการค้าหลักๆ ในอาเซียนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่งานแสดงสินค้าในระยะยาว
“เนื่องจากงานแสดงสินค้านานาชาติถือเป็นด่านแรกในการเปิดประตูการค้าและการลงทุนในภูมิภาค ทำให้ผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้ขายในแต่ละอุตสาหกรรมมาพบกัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสุขภาพที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นส่วนหนึ่งของโรดแมปสู่การรวมตัวของเศรษฐกิจอาเซียน งานแสดงสินค้านานาชาติจึงจะทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้พบปะเจรจาธุรกิจ ขยายความร่วมมือ และถ่ายโอนความรู้นำไปสู่การค้าและการลงทุนในที่สุด ขณะเดียวกันยังคาดการณ์การเติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมายของแผนแม่บทปี พ.ศ. 2560-2564 ว่านักเดินทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติจะเติบโตขึ้นเฉลี่ย 10% และมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 14%”
นางจารุวรรณกล่าวด้วยว่า “ทีเส็บ” จะสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติตามโครงการ ASEAN Rising Trade Show (ART) ปีที่ 2 เป็นจำนวน 9 งานภายใต้ 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์, พลังงาน, อาหารและสินค้าเกษตร, สุขภาพและความงาม โดย “ทีเส็บ” สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และสมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI) ได้กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยนอกจากจะต้องเป็นงานแสดงสินค้าที่มีแนวคิดด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์แล้ว ยังจะต้องส่งเสริมธุรกิจอย่างยั่งยืน มีศักยภาพในการดึงผู้ประกอบการจากประเทศสมาชิกอาเซียนมาร่วมงานได้ โดยกิจกรรมการตลาดที่ผู้จัดงานนำเสนอภายใต้โครงการ ASEAN Rising Trade Show จะต้องไม่ทับซ้อนกับแผนงานการตลาดภายใต้การสนับสนุนปกติและมี KPI ที่สามารถวัดผลได้ชัดเจนเพื่อติดตามผลหลังจบงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ งานแสดงสินค้านานาชาติที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ASEAN Rising Trade Show ในปี 2559 ประกอบด้วยงาน Food & Hotel Thailand 2016 และงาน SIMA ASEAN Thailand 2016 ภายใต้อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร, งาน GRTE 2016 (Global Rubber, Latex & Tire Expo 2016), งาน Automotive Manufacturing 2016 และงาน Assembly and Automation Technology 2016 ภายใต้อุตสาหกรรมยานยนต์, งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2016 และงาน 3W Expo 2016 ภายใต้อุตสาหกรรมพลังงาน, งาน Thailand Lab International 2016 และงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2016 ภายใต้อุตสาหกรรมสุขภาพ