xs
xsm
sm
md
lg

อุตสาหกรรมพื้นฐานไทยแกร่ง ส่งตลาดงานแสดงสินค้าโตเกินเป้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“จารุวรรณ สุวรรณศาสน์” ผู้อำนวยการ ฝ่ายการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” คาดตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติปี 59 เติบโตขึ้น 5-10% คิดเป็นสัดส่วน 17% ของตลาดไมซ์รวม เหตุ 5 อุตสาหกรรมพื้นฐานไทยแกร่ง เร่งสร้างแรงจูงใจผู้ประกอบการต่างชาติจัดงานในไทยมากขึ้นด้วยมาตรการลดหย่อนภาษีหลังหักค่าใช้จ่าย หวังเพิ่มมูลค่าตลาดสูงขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.07% ของจีดีพี

นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า ภาพรวมการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) ในประเทศไทยภายใต้การสนับสนุนของ “ทีเส็บ” ในปีงบประมาณ 2558 เติบโตขึ้นทั้งด้านจำนวนงาน ผู้ร่วมงาน และรายได้ประมาณ 20% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีจำนวนนักเดินทางต่างชาติประมาณ 190,400 คน พร้อมสร้างรายได้ 17,000 ล้านบาท

ส่วนในปีงบประมาณ 2559 คาดว่าตลาดการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติจะเติบโตขึ้นประมาณ 5-10% คิดเป็นนักเดินทาง 191,000 คน และรายได้ 15,650 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของรายได้ตลาดไมซ์รวมที่คาดว่าเติบโตขึ้นประมาณ 5% คิดเป็นจำนวนนักเดินทางทั้งสิ้น 1,060,000 คน และรายได้ 92,000 ล้านบาท 190,400 คน และสร้างรายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท

นางจารุวรรณกล่าวด้วยว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติเติบโตขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมพื้นฐานหลายประเภทของประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับ “ทีเส็บ” มีการจัดทำโครงการ “ASEAN Rising Trade Show” เพื่อเป็นการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ 3 ปีการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติแห่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเน้น 5 อุตสาหกรรมหลักพื้นฐานตามแนวโน้มการเติบโตของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมอาหารและสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมสุขภาพ และอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน

“นักเดินทางต่างชาติกลุ่มงานแสดงสินค้านานาชาติมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งต่อคนประมาณ 9 หมื่นบาทจนถึง 1.1 แสนบาทขึ้นไป โดยในส่วนของผู้ประกอบการ หรือ Exhibitors จะใช้เวลาพำนักในประเทศไทยประมาณ 5-7 วันต่อครั้ง ส่วนผู้ร่วมงานทั่วไป หรือ Visitors ใช้เวลาประมาณ 2-3 วันต่อครั้ง ส่งผลให้การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยมีมูลค่ารวมคิดเป็น 0.07% ของอัตราการเติบโตทางจีดีพีของประเทศ”

นางจารุวรรณกล่าวอีกว่า “ทีเส็บ” ยังมีการทำงานร่วมกับ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA รวมถึงผู้ประกอบการภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มผู้ประกอบการต่างชาติเดินทางเข้ามาจัดงานในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอให้มีการลดหย่อนภาษีหลังหักค่าใช้จ่ายในสัดส่วนที่เหมาะสมประมาณ 5-10% ตลอดจนจัดระบบขนส่งมวลชนระหว่างสนามบิน สถานที่จัดงาน และที่พักให้นักเดินทางได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อให้ตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติไทยเติบโตขึ้นและมีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 2% ของอัตราการเติบโตทางจีดีพีของประเทศ

นางจารุวรรณกล่าวในตอนท้ายว่า ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพสูงมากในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีความได้เปรียบทั้งด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ บุคลากร พื้นที่และสถานที่จัดงาน ตลอดจนระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยคาดว่าหลังจากเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป รูปแบบการจัดงานที่จะมีการจัดมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ขายตรง แฟรนไชส์ ตลอดจนธุรกิจลอจิสติกส์



กำลังโหลดความคิดเห็น