“โตโยต้า” โชว์ยานยนต์แห่งอนาคตใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน “MIRAI” หรือ “มิรัย” ตั้งเป้าผลิตเพื่อจำหน่าย 30,000 คันในปี 2020 พร้อมแบ่งปันเทคโนโลยีเปิดให้เกิดการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงสิทธิบัตรของโตโยต้าฟรี เพื่อต้องการให้เกิดการช่วยผลักดันสร้างสังคมยานยนต์ไฮโดรเจนให้เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายมากขึ้น
นายโยชิคาซุ ทานากะ หัวหน้าวิศวกรในโครงการพัฒนายานยนต์เพื่ออนาคตของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงยุทธศาสตร์การพัฒนายานยนต์ของโตโยต้าในงาน “การประชุมและนิทรรศการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA 2016” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ว่า โตโยต้าได้ดำเนินการพัฒนายานยนต์ใช้เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Vehicle - FCV) มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะกว่า 20 ปี และประสบความสำเร็จโดยได้นำ ‘MIRAI’ รถยนต์ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell Vehicle) ออกจำหน่ายครั้งแรกในญี่ปุ่นในปี 2014 ที่ผ่านมา ในปีนี้คาดว่าจะผลิตได้ประมาณ 2,000 คัน และปี 2017 ตั้งเป้าหมายการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 คัน และคาดหวังจะผลิตได้ถึง 30,000 คันในปี 2020
อย่างไรก็ดี โตโยต้ายังไม่ได้เริ่มจำหน่ายมายังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากกำลังการผลิต MIRAI ยังมีข้อจำกัดเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ยังสูงอยู่ อีกทั้งสาธารณูปโภคที่รองรับยังไม่ครอบคลุม การพัฒนาการผลิตเพื่อจำหน่ายและส่งออก MIRAI จึงเป็นแผนระยะยาว สำหรับราคาจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นปัจจุบันอยู่ที่คันละ 7 ล้านเยน หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท
นายทานากะกล่าวว่า เพื่อเป็นการผลักดันให้เกิดการพัฒนายานยนต์ใช้เซลล์เชื้อเพลิงให้มากขึ้น ทางโตโยต้าเปิดกว้างให้นักวิจัยและพัฒนาจากต่างองค์กรหรือต่างบริษัทสามารถนำเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงของโตโยต้ามีอยู่กว่า 5,680 สิทธิบัตรของโตโยต้าไปพัฒนาต่อได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แม้จะนำไปเพื่อใช้ผลิตเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ก็ตาม
“โตโยต้าเพียงรายเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้เกิดสังคมยานยนต์ไฮโดรเจนได้ เราทุกคนต้องช่วยกัน ดังนั้น โตโยต้ายินดีอย่างยิ่งหากจะมีผู้นำเทคโนโลยียานยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไปต่อยอดต่อไป” นายทานากะกล่าว
สำหรับรถ ‘MIRAI’ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “อนาคต” ซึ่งต้องการสื่อให้เห็นถึงทิศทางของคนรุ่นใหม่ในอนาคตที่ต้องพัฒนาและพึ่งพายานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
โดย MIRAI ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีของไฮโดรเจน และที่สำคัญ MIRAI ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ปล่อยน้ำออกมาเท่านั้น และนอกจากจะมีเสถียรภาพแห่งการควบคุมขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายแล้ว รถรุ่นนี้ยังสามารถขับได้ในระยะทางไกล และใช้เวลาในการเติมพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเพียงประมาณ 3 นาทีเท่านั้น รวมทั้งยังมีระบบการทำงานที่สามารถสำรองที่พลังงานภายนอก นอกเหนือจากการขับเคลื่อนโดยพลังงานที่ได้จากเซลล์เชื้อเพลิง และระบบที่สามารถเก็บสำรองพลังงานไว้ได้ยาวนานหลายเท่ากว่ายานยนต์ไฟฟ้าทั่วๆ ไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ