xs
xsm
sm
md
lg

“แอร์เอเชีย” ต่อยอด OTA 2 ปีดันไทยขึ้นอันดับ 2 ในเอเชียแปซิฟิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“ดาเรน โกห์” (ซ้าย) ประธานผู้จัดการ และ “กรกฏ เอกฐานุตต์” (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด AirasiaGo ประจำประเทศไทย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เปิดตัวแบรนด์ไอดอล “Super Saverman” เพื่อทำการตลาดธุรกิจ OTA ในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ผู้จัดการรายวัน 360 - AirasiaGo.com บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ในเครือ “แอร์เอเชีย” เผยผลประกอบการในไทยขึ้นอันดับ 2 ใน 14 ประเทศเอเชียแปซิฟิก ด้วยสัดส่วน 25% เพียงระยะเวลา 2 ปี เป็นรองมาเลเซียที่มี 40% จัดงบฯ 70 ล้านบาทเปิดตัวแบรนด์ไอคอน “Super Saverman” ทำตลาดในไทยแห่งแรก ก่อนขยายไปประเทศอื่น คาดปี 59 ทำรายได้เพิ่มเป็น 30% จากรายได้รวม 200 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายดาเรน โกห์ ประธานผู้จัดการ AirasiaGo.com บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agent : OTA) ภายใต้การดำเนินงานของ AAE Travel PTE LTd. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 2548 เป็นเพียงแผนกหนึ่งในเครือสายการบินราคาประหยัด “แอร์เอเชีย” ภายใต้ชื่อ goholiday.airasia.com จนกระทั่งปี 2553 จึงแยกตัวออกดำเนินงานในรูปแบบบริษัทฯ ก่อนที่ Expedia Inc. ผู้ให้บริการ OTA ชั้นนำของโลกได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในปี 2558 ด้วยสัดส่วน 75% ส่วน “แอร์เอเชีย” มีสัดส่วน 25%

ปัจจุบัน AirasiaGo ให้บริการใน 14 ประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในปี 2558 มีรายได้รวมเติบโตขึ้น 38% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ แยกเป็นรายได้จากประเทศมาเลเซีย 40% ไทย 25% จีน 10% ฮ่องกง 7% อินโดนีเซียและสิงคโปร์ 7% ส่วนเหลือ 11% เป็นรายได้รวมจากออสเตรเลียและอื่นๆ โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 50% คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าจะสามารถทำรายได้จากประเทศไทยประมาณ 30%

“การดำเนินงานในประเทศไทยถือว่ามีผลประกอบการสูงเป็นอันดับ 2 ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการเพียง 2 ปี ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอนาคตอันใกล้ บริษัทฯ จึงมีการใช้งบประมาณการตลาด 60-70 ล้านบาทเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมเปิดตัวแบรนด์ไอคอน Super Saverman เพื่อทำการตลาดในประเทศไทยเป็นแห่งแรกเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นจะมีการเปิดตัวในประเทศอื่นๆ ต่อไป เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน”

จากข้อมูลของบริษัทวิจัยอุตสาหกรรมท่องเที่ยว “PhoCusWright” ประมาณการตลาดการท่องเที่ยวโลกในช่วงปี 2557-2560 ว่ามีอัตราการเติบโตประมาณ 8% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีสัดส่วนสูงสุดถึง 30% จากตลาดรวม แยกเป็นมูลค่าตลาด OTA ประมาณ 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตประมาณ 24% ขณะที่การจองที่พักโดยตรงกับโรงแรมและสายการบินมีการเติบโตประมาณ 16% โดย AirasiaGo มีส่วนแบ่งตลาด OTA ประมาณ 2.5% และคาดว่าในปี 2559 จะมีการเติบโตสูงกว่าตลาดคือ 35%

“ภาพรวมการแข่งขันของตลาด OTA ในไทยมีคู่แข่งใหญ่ๆ 3-4 ราย และยังคงมีคู่แข่งรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทาง AirAsiaGo แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ โดยนำเสนอขายเที่ยวบินและโรงแรมเป็นแพกเกจในราคาสุดประหยัดและคุ้มค่ากว่าการซื้อเที่ยวบินและโรงแรมแยกกัน AirAsiaGo จึงสามารถลดราคาลงมาโดยไม่มีใครในตลาดสามารถเสนอราคาแบบนี้ได้ เนื่องจาก AirAsiaGo สามารถนำจุดแข็งของแอร์เอเชียในการให้บริการด้านการจองเที่ยวบินและความแข็งแกร่งด้านการบริการจองโรงแรมทั่วโลกของ Expedia เข้าไว้ด้วยกัน” นายดาเรนกล่าวในตอนท้าย

ด้าน น.ส.กรกฎ เอกฐานุตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด AirasiaGo ประจำประเทศไทย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย กล่าวว่า AirasiaGo มีความแตกต่างจากผู้ให้บริการ OTA รายอื่น คือมีเครือข่ายครบวงจรทั้งโรงแรมที่พักกว่า 2.71 แสนแห่งทั่วโลก และสายการบิน 400 แห่ง ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าชนชั้นกลางขึ้นไปที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุ 20-45 ปี มีพฤติกรรมชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยการหาข้อมูลและเดินทางด้วยตัวเอง โดยพิจารณาเปรียบเทียบข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ

“สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการของ AirasiaGo เป็นคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละประมาณ 6 พันบาทต่อแพกเกจ 3 วัน 2 คืน ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 1.2 หมื่นบาทต่อแพกเกจ 4 วัน 3 คืน ขณะเดียวกันยังมีลูกค้าต่างชาติใช้บริการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 35%”

ปัจจุบันเว็บไซต์ AirasiaGo มียอดผู้เข้าชมประจำประมาณ 5 แสนรายต่อเดือน มีผู้ใช้บริการจองที่พักและสายการบิน 50% และจองเฉพาะที่พัก 50% โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบเฉพาะการจองตั๋วสายการบิน ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 5% นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าด้านการบริการให้ลูกค้าใช้ในการจองและจ่ายเงินผ่านระบบสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์มาตั้งแต่ปี 2557 โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 3 แสนครั้งแล้ว และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 60% ในปี 2559

น.ส.กรกฎยังกล่าวถึงการเปิดตัวแบรนด์ไอคอน “Super Saverman” ว่าเป็นเสมือนซูเปอร์ฮีโร่ที่จะมาช่วยเรื่องการออกแบบทริปท่องเที่ยวผ่านระบบออนไลน์ให้ง่ายและคุ้มค่า พร้อมเป้าหมายในการนำข้อเสนอที่ดีที่สุดในราคาที่ประหยัดที่สุดให้ลูกค้า ครอบคลุมทั้งแพกเกจเที่ยวบิน โรงแรมและที่พักทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของ AirAsiaGo คือคนรุ่นใหม่ผู้รักความสนุกสนาน และชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว แต่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ดังนั้นการใช้บริการเว็บไซต์ตัวแทนการจองเที่ยวบินและโรงแรมที่มีโปรโมชันคุ้มค่าจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าสำหรับพวกเขา โดยคาดว่า “Super Saverman” จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ AirAsiaGo เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว



กำลังโหลดความคิดเห็น