ผู้จัดการรายวัน 360 - “อีเลคโทรลักซ์” เผยผลประกอบการปี 58 เติบโตสวนเศรษฐกิจ มุ่งแผนปี 59 เดินหน้าทำยอดขายโตกว่า 10% จัดแคมเปญใหญ่เน้นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ 66 รายการ ประเดิมกลุ่มตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมชู 3 กลยุทธ์รักษาผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมจากตลาดรวม 4.5 หมื่นล้านบาท
นายสุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมมีสัดส่วนประมาณ 25-30% ของตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่าประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเครื่องปรับอากาศ ประมาณ 30% เครื่องซักผ้า 25% ตู้เย็น 20% และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ประมาณ 25% โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 5%
แต่ละปีเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมมีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม เนื่องจากเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลางขึ้นไปที่มีกำลังซื้อสูงและคำนึงถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 7% ขณะที่ “อีเลคโทรลักซ์” ถือเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาสูงกว่าประมาณ 10-15% จึงไม่เน้นกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคาเหมือนผู้ประกอบการรายอื่นๆ แต่สามารถทำผลประกอบการได้เติบโตมากกว่า 10% สูงกว่าตลาดรวมเป็นเวลาต่อเนื่อง 7 ปีนับตั้งแต่ปี 2551
นายสุทธิ กล่าวด้วยว่า ผลประกอบการของ “อีเลคโทรลักซ์” ในประเทศไทยถือว่าอยู่ในลำดับสูงสุด 1 ใน 3 ของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานตั้งอยู่ที่ จ.ระยอง ถือเป็นฐานการผลิตส่งออกเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าไปทั่วโลก และผลิตตู้เย็นส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ขณะที่มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 6 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ 30% ตู้เย็น 15% เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก 10% ส่วนที่เหลือเป็นเครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว
“ในปี 2558 อีเลคโทรลักซ์ มีผลการดำเนินงานเติบโตสวนภาวะเศรษฐกิจ โดยมียอดขายเติบโตทุกกลุ่มสินค้าทุกช่องทางขายปลีกและมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดทุกกลุ่มสินค้า เช่น เครื่องซักผ้าฝาหน้า มีส่วนแบ่งตลาด 39.8% เพิ่มขึ้น 4.8 จุด เครื่องดูดฝุ่น มีส่วนแบ่ง 30.1% เพิ่มขึ้น 1.0 จุด และเครื่องไมโครเวฟ มีส่วนแบ่ง 20.2% เพิ่มขึ้น 4.3 จุด ถือเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดจากลำดับ 5 ในปี 2557 เป็นลำดับ 3 ในปี 2558 และคาดว่าจะขึ้นเป็นลำดับ 2 ในปี 2559”
นายสุทธิ กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2559 บริษัทฯ ใช้งบประมาณ 3% จากยอดขายรวมในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้นวัตกรรมใหม่ๆ ภายใต้แนวคิด “16-16-66” หมายถึงวันที่ 16 - ปีค.ศ.2016 - ผลิตภัณฑ์ใหม่ 66 รายการ โดยมีการจัดแคมเปญ “Electrolux TURN DELIGHT UP” (เติมเต็มความสุข...มากกว่าที่เคย) พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 กลุ่มคือตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่น
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบ 7 ปีเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทยมายาวนานกว่า 30 ปี พร้อมตั้งเป้ายอดขายเติบโตมากกว่า 10% อย่างต่อเนื่อง โดยเน้น 3 กลยุทธ์หลักคือการยกระดับคุณภาพสินค้าด้วยนวัตกรรมอินเวอร์เตอร์ทุกกลุ่มสินค้าหลักพร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและมีส่วนช่วยประหยัดน้ำและพลังงาน โดยมีการปรับรูปแบบและดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัย ตลอดจนบริการหลังการขาย 24 ชั่วโมง
“บริษัทฯ มีการใช้งบประมาณการตลาดเพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของยอดขายในแต่ละปี โดยในปี 2559 จะเน้นการใช้สื่อดิจิตอลเพิ่มขึ้นเท่าตัวคิดเป็นสัดส่วนถึง 30% จากงบประมาณทั้งหมด รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายทุกช่องทาง เพื่อเน้นสร้างการรับรู้สู่กลุ่มเป้าหมายใหม่คือผู้มีอายุ 30-40 ปี จากเดิมที่มีอายุ 40ปีขึ้นไป” นายสุทธิ กล่าวในที่สุด
