“เซโฟร่า” ฮุบ “ลักซ์โซล่า” ตีตลาดความงามออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - บิวตี้รีเทลพรีเมียมระดับโลกเปิดแนวรบตลาดเครื่องสำอางและความงามออนไลน์ ควบรวมกิจการ Luxola เว็บไซต์บิวตี้ออนไลน์ชื่อดัง 8 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ในไทยเป็น www.sephora.co.th เตรียมดันสินค้าจากสาขาเข้าระบบอี-คอมเมิร์ซอย่างน้อย 80% หวังขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีกว่า 1 แสนคน ตั้งเป้ารายได้ออนไลน์เพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่วนยอดขายสาขายังคงรักษาระดับสองหลัก

น.ส.สุปราณี จันทไพบูลย์ขจร คันทรีแมเนเจอร์ “เซโฟร่า” (SEPHORA) บิวตี้รีเทลในเครือ LVMH ผู้นำตลาดเครื่องสำอางและความงามจากทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายขยายช่องทางตลาดออนไลน์และอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น จึงได้ควบรวมกิจการกับ “ลักซ์โซล่า” เว็บไซต์บิวตี้ออนไลน์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย และไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 58

การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นช่องทางลัดในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจของ “เซโฟร่า” เนื่องจาก “ลักซ์โซล่า” มีบุคลากร ความชำนาญ เทคโนโลยี และช่องทางตลาดที่เพียบพร้อมอยู่แล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 59 ได้เปิดดำเนินงานด้านอี-คอมเมิร์ซพร้อมกันทั้ง 8 ประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะใช้ชื่อเว็บไซต์และ URL ของประเทศนั้นๆ แต่ลูกค้าทุกประเทศสามารถเข้าชมและสั่งซื้อสินค้าของประเทศต่างๆ ได้เช่นกัน โดยในส่วนของประเทศไทยได้เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์จาก www.luxola.co.th เป็น www.sephora.co.th ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับจากลูกค้าอย่างดี ทั้งในส่วนของลูกค้า “เซโฟร่า” และฐานลูกค้าเก่าของ “ลักซ์โซล่า” ส่งผลให้ “เซโฟร่า” เป็นบิวตี้รีเทลรายแรกของประเทศไทยที่ลูกค้าสามารถจับจ่ายสินค้าความงามระดับพรีเมียมจากแบรนด์ดังทั่วโลกได้ทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์

“การเปิดตัวเว็บไซต์ www.sephora.co.th ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสขยายช่องทางตลาดเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายผู้หญิงที่มีอายุ 25-35 ปีในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น จากปัจจุบันที่ยังคงมีสัดส่วนเท่ากันคือร้อยละ 50:50 โดยมีฐานสมาชิกทั้งในส่วนของสาขาและออนไลน์รวมกันประมาณ 1 แสนคน จึงมั่นใจว่าในปี 2559 ยอดขายออนไลน์จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัว ขณะที่ยอดขายสาขาจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตในระดับสองหลักเช่นเดิม”

น.ส.สุปราณีกล่าวด้วยว่า “เซโฟร่า” เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมี 5 สาขา ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล เอมบาสซี่, ดิ เอ็มควอเทียร์ และเมกา บางนา ขนาดพื้นที่ 350-600 ตร.ม. แต่ละสาขามีสินค้าความงามระดับพรีเมียมประมาณ 130 แบรนด์ คิดเป็นจำนวนกว่า 1 หมื่นเอสเคยู โดยยังมีสินค้าพรีเมียมแบรนด์ดังที่จำหน่ายเฉพาะที่สาขา “เซโฟร่า” เท่านั้นคือ tarte

ขณะที่ในเว็บไซต์ www.sephora.co.th เบื้องต้นมีสินค้าประมาณ 80 แบรนด์ เป็นจำนวน 4 พันเอสเคยู และมีสินค้าพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะเว็บไซต์ คือ zoeva, enarose, ALPHA-H โดยทั้งสาขาและเว็บไซต์ยังมีการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ “SEPHORA” ด้วยสัดส่วนประมาณ 30% หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 500 เอสเคยู โดยแต่ละปีจะมีการเปิดตัวเครื่องสำอางและความงามแบรนด์ใหม่ๆ ประมาณ 4 ครั้ง

“ในปี 2559 บริษัทฯ ต้องชะลอแผนเปิดสาขาใหม่ในประเทศไทยเพื่อเน้นหนักตลาดออนไลน์อย่างจริงจังมากขึ้น โดยจะพยายามปรับสินค้าในเว็บไซต์ให้เป็นสินค้าจากสาขามากขึ้นถึง 80% หรืออย่างน้อยประมาณ 80 แบรนด์ พร้อมกับใช้งบประมาณการตลาดด้านออนไลน์ครบทุกช่องทาง ทั้งเว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และไลน์ ขณะที่สาขาจะใช้งบประมาณส่งเสริมกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายมากขึ้น” น.ส.สุปราณีกล่าวในที่สุด

ด้าน นายลอเรนโซ พีรัคคิโอ คันทรีแมเนเจอร์ “เซโฟร่า” ดิจิตอลกรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ลักซ์โซล่า” เริ่มเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2554 ในฐานะบิวตี้ชอปปิ้งออนไลน์รายใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ จากนั้นได้เข้ามาเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี 2557 จนปัจจุบันสามารถขยายตลาดได้ถึง 11 แห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผลการดำเนินงานในประเทศสิงคโปร์มียอดขายสูงสุด ตามด้วยไทย มาเลเซีย และออสเตรเลีย

“การปรับเปลี่ยนช่องทางตลาดออนไลน์ของเซโฟร่าครั้งนี้มั่นใจได้ว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัว เนื่องจากเพียงระยะเวลาไม่กี่วันที่เริ่มเปิดดำเนินการพบว่ามีสัญญาณการจับจ่ายของลูกค้าในทิศทางที่ดีและน่าประหลาดใจ คือ ลูกค้ามีการกลับมาซื้อซ้ำเฉลี่ยทุก 2 เดือน ขณะเดียวกันยอดซื้อต่อบิลต่อครั้งมีราคาใกล้เคียงกับยอดซื้อของแต่ละสาขา เพราะปกติแล้วลูกค้าออนไลน์มักจะมียอดซื้อไม่สูงมากนัก”

จุดเด่นของเว็บไซต์ www.sephora.co.th คือสินค้าเครื่องสำอางและความงามระดับพรีเมียมของแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่มีให้ลูกค้าได้เลือกอย่างหลากหลายทุกที่ทุกเวลา พร้อมบริการจัดส่งสินค้าฟรีทั่วประเทศในวันรุ่งขึ้นด้วยยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ 499 บาท ขณะที่มีช่องทางการชำระเงินครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการชำระเงินปลายทาง ชำระด้วยบัตรเครดิต และชำระผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น