ผู้จัดการรายวัน 360 - “ต.สยาม คอมเมอร์เชียล” เปิดตัว “GRIP” New Tire Retail Concept ลุยศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร วางเป้าหมายปีนี้เปิด 20 สาขา พร้อมเปิดตัวยาง TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRES รวมจำนวน 7 รุ่น
นายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด กล่าวถึงทิศทางธุรกิจสำหรับยางรถยนต์ในประเทศไทยในปี 2559 ว่า ปัจจุบันสิ่งที่สำคัญนอกจากคุณภาพของสินค้าและราคาแล้ว ช่องทางการจัดจำหน่ายถือเป็นตัวแปรสำคัญมากที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับการแข่งขันในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงได้มีการริเริ่มดำเนินการในการจัดทำ New Tire Retail Concept ขึ้นมาภายใต้ชื่อ “GRIP” หรือ “กริพ”เพื่อให้เป็นศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร พร้อมบริการดูแลรักษารถยนต์ในส่วนต่างๆ
ศูนย์บริการดังกล่าวจะมีการจำหน่ายยางรถยนต์ครบทุกเซ็กเม้นต์ในท้องตลาด ตั้งแต่ ECO Tire ไปจนถึง Ultra High Performance Tire ทั้งสำหรับรถยนต์ รถ SUV และรถกระบะ รวมไปถึงยางรถตู้ รถบรรทุกและขนส่งต่างๆ ภายใต้แบรนด์ TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRE โดยยางแต่ละแบรนด์จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง ไม่ว่าผู้บริโภคต้องการยางแบบไหน “กริพ” ที่เดียวจบเรื่องยาง
บริษัทฯ วางกลยุทธ์ให้ “GRIP” เป็นร้านค้าจำหน่ายยางรถยนต์นำเข้า TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRE ของบริษัทฯ ที่ครบครันและทันสมัยที่สุด รวมถึงเป็นการติดอาวุธที่สำคัญให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ที่ร่วมโครงการดังกล่าวกับบริษัทฯ ในเรื่องของการวางมาตรฐานของร้านค้าให้ได้ตามที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งในเรื่องการสนับสนุนการออกแบบและตกแต่งร้านค้า การอบรมการบริการที่ได้มาตรฐาน ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์สินค้าแต่ละประเภท รายการส่งเสริมการขายต่างๆ รวมถึงสินค้ายางรถยนต์ที่มีจำหน่ายอย่างครบครัน และการรับประกันคุณภาพจากการผลิตของสินค้าทุกแบรนด์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สร้างจุดแข็งให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯ โดยในปี 2559 ได้วางเป้าหมายในการขยายสาขาของ “GRIP” ให้ได้ถึง 20 สาขาในและครบ 200 สาขาภายใน 10 ปี
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ มีการนำยางรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาจำหน่ายและทำตลาดในประเทศไทยด้วยกันถึง 7 รุ่น ประกอบด้วย
• ยางโตโยไทร์ รุ่น TOYO PROXES TM1 ยางพรีเมียม อัลตราไฮเปอร์ฟอร์แมนซ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ต มีด้วยกัน 22 ขนาด
• ยางโตโยไทร์ รุ่น TOYO PROXES CF2 ยางพรีเมียม ดีไซน์เฉียบ ดอกยางทนทาน นุ่มเงียบทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยีส่วนผสมเนื้อยางสูตรใหม่ล่าสุด มีด้วยกัน 33 ขนาด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,400 บาท
• ยางโตโย รุ่น OPEN COUNTRY A/T II อีกขีดขั้นของยาง SUV และรถกระบะอเนกประสงค์ นุ่ม..เงียบดอกยางสึกเรียบ ทนทาน ด้วยเทคโนโลยีส่วนผสมเนื้อยางสูตรใหม่ล่าสุด มีด้วยกัน 24 ขนาด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 4,190 บาท
• ยางนิตโตะ รุ่น TERRA GRAPPLER G2 ยาง SUV และกระบะเอนกประสงค์พันธุ์แกร่ง เต็มพลังขับเคลื่อนแบบออฟโรด นุ่ม..เงียบ สบายแบบยางไฮเวย์ ดีไซน์เท่ห์ มั่นใจทุกพื้นผิว มีด้วยกัน 10 ขนาด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 6,300 บาท
• ยาง KUMHO รุ่น ROAD VENTURE MT51 ยางออฟโรดสำหรับขาลุยตัวจริง เกาะถนนบนทางเรียบ แข็งแกร่งบนทางลุย มั่นใจทุกการควบคุม บทสรุปที่ลงตัวของการขับขี่ มีด้วยกัน 12 ขนาด
• ยาง KUMHO CRUGEN HT51 ยาง SUV และกระบะสายพันธุ์ใหม่ ควบคุมฉับไว ขับขี่มั่นใจบนทุกพื้นผิว คุ้มค่า ทนทาน หน้ายางสึกเรียบตลอดอายุการใช้งาน ด้วยเนื้อยางสูตรใหม่ล่าสุดมีด้วยกัน 5 ขนาด ราคาเริ่มต้นที่ 3,200 บาท
• ยาง KUMHO ESCTA PS91 เทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับโลก ที่สุดของการขับขี่ ด้วยส่วนผสมเนื้อยางสูตรเดียวกับรถ Formula 3 ที่รองรับความเร็วได้สูงถึง 300 km/h ให้คุณมั่นใจต่อการควบคุม บนทุกสภาวะของพื้นถนน มีด้วยกัน 43 ขนาด
นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า แผนการตลาดในปี 2559 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นไปที่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งซึ่งจะให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนรายการแข่งขันรถยนต์รูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างฐานกลุ่มลูกค้าให้ทั่วถึง ทั้งในกรุงเทพฯ และตลาดหัวเมืองใหญ่ ผ่านการแข่งขันรถยนต์รายการชั้นนำต่างๆ อาทิ รายการ TOYO TIRES 3K RACING CAR THAILAND ซึ่งเป็นรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ปัจจุบันมีรถเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 400 คันซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมการสนับสนุนการแข่งขันทั้งในส่วนรายการ “TOYO TIRES 3K ISUZU CROSS COUNTRY” รวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันรายการ DRAG ชั้นนำต่างๆ เช่น “TOYO TIRES R1R DRAG BATTLE” และ “NITTO TIRE KING OF DRAG 2016” ซึ่งการแข่งขันทุกรายการที่บริษัทฯ ให้การสนับสนุนก็จะใช้ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ของบริษัทฯ ในการแข่งขันรถยนต์รุ่นต่างๆ เช่นเดียวกันซึ่งจะสามารถสร้างประสบการณ์ตรงในการใช้ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ของบริษัทฯ รวมถึงการบอกต่อถึงเรื่องประสิทธิภาพและการใช้งานที่ดีเยี่ยมของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นที่ใช้ในการแข่งขันซึ่งเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้เป็นอย่างดี
“ในปีนี้ยาง KUMHO TIRE ยังคงจับมือกับ บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันมวยสากลรายการต่างๆ ร่วมกันตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในตลาดกลุ่มต่างๆ ได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น”
นายอภิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารการตลาดที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีการวางแผนทั้งในส่วนของสื่อ อะโบฟ เดอะ ไลน์ และ บีโลว์ เดอะ ไลน์อย่างครบถ้วนแล้ว จะยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งและคอนเท้นท์มาร์เก็ตติ้งเป็นอันดับหนึ่งเช่นกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทังในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการเสพสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัว ทำให้ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเป็นแพล็ทฟอร์มที่สำคัญในปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน
“ในปีนี้นอกจากช่องทางการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิตอลต่างๆ ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำในการทำการตลาดไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์แล้วนั้น บริษัทฯ ยังเตรียมพร้อมเปิดตัวไลน์แอคเคาท์ในส่วนของผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ของบริษัทฯ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการติดต่อและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างการจดจำแบรนด์ให้เป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภคที่ต้องการสินค้ายางรถยนต์นำเข้าคุณภาพและการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม”
ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ “TOYO TIRES” ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดิร์คนใหม่ล่าสุดคือ “Ken Block” ซึ่งจะมาเป็นตัวแทนในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ “TOYO TIRES” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านแฟนคลับ และผู้ติดตามกว่า 350 ล้านคนทั่วโลก
นายอภิชัย กล่าวในตอนท้ายว่า จากแผนการตลาดและกลยุทธ์ต่างๆ ที่บริษัทฯ วางไว้ จึงมั่นใจว่าภาพรวมของบริษัทฯ จะมีการเติบโตและฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ เป็นสัญลักษณ์ของความคุ้มค่า เชื่อถือได้ปลอดภัย และเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้ขับขี่ไปตลอดการเดินทางตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ได้วางไว้สำหรับในปีนี้คือ “T.SIAM BEYOND TIRE”
นายอภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด กล่าวถึงทิศทางธุรกิจสำหรับยางรถยนต์ในประเทศไทยในปี 2559 ว่า ปัจจุบันสิ่งที่สำคัญนอกจากคุณภาพของสินค้าและราคาแล้ว ช่องทางการจัดจำหน่ายถือเป็นตัวแปรสำคัญมากที่สุดอีกส่วนหนึ่งสำหรับการแข่งขันในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงได้มีการริเริ่มดำเนินการในการจัดทำ New Tire Retail Concept ขึ้นมาภายใต้ชื่อ “GRIP” หรือ “กริพ”เพื่อให้เป็นศูนย์บริการยางรถยนต์ครบวงจร พร้อมบริการดูแลรักษารถยนต์ในส่วนต่างๆ
ศูนย์บริการดังกล่าวจะมีการจำหน่ายยางรถยนต์ครบทุกเซ็กเม้นต์ในท้องตลาด ตั้งแต่ ECO Tire ไปจนถึง Ultra High Performance Tire ทั้งสำหรับรถยนต์ รถ SUV และรถกระบะ รวมไปถึงยางรถตู้ รถบรรทุกและขนส่งต่างๆ ภายใต้แบรนด์ TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRE โดยยางแต่ละแบรนด์จะมีจุดขายที่แตกต่างกัน สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่าง ไม่ว่าผู้บริโภคต้องการยางแบบไหน “กริพ” ที่เดียวจบเรื่องยาง
บริษัทฯ วางกลยุทธ์ให้ “GRIP” เป็นร้านค้าจำหน่ายยางรถยนต์นำเข้า TOYO TIRES, NITTO TIRE และ KUMHO TIRE ของบริษัทฯ ที่ครบครันและทันสมัยที่สุด รวมถึงเป็นการติดอาวุธที่สำคัญให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ที่ร่วมโครงการดังกล่าวกับบริษัทฯ ในเรื่องของการวางมาตรฐานของร้านค้าให้ได้ตามที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งในเรื่องการสนับสนุนการออกแบบและตกแต่งร้านค้า การอบรมการบริการที่ได้มาตรฐาน ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์สินค้าแต่ละประเภท รายการส่งเสริมการขายต่างๆ รวมถึงสินค้ายางรถยนต์ที่มีจำหน่ายอย่างครบครัน และการรับประกันคุณภาพจากการผลิตของสินค้าทุกแบรนด์ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สร้างจุดแข็งให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯ โดยในปี 2559 ได้วางเป้าหมายในการขยายสาขาของ “GRIP” ให้ได้ถึง 20 สาขาในและครบ 200 สาขาภายใน 10 ปี
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ มีการนำยางรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาจำหน่ายและทำตลาดในประเทศไทยด้วยกันถึง 7 รุ่น ประกอบด้วย
• ยางโตโยไทร์ รุ่น TOYO PROXES TM1 ยางพรีเมียม อัลตราไฮเปอร์ฟอร์แมนซ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ต มีด้วยกัน 22 ขนาด
• ยางโตโยไทร์ รุ่น TOYO PROXES CF2 ยางพรีเมียม ดีไซน์เฉียบ ดอกยางทนทาน นุ่มเงียบทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยีส่วนผสมเนื้อยางสูตรใหม่ล่าสุด มีด้วยกัน 33 ขนาด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,400 บาท
• ยางโตโย รุ่น OPEN COUNTRY A/T II อีกขีดขั้นของยาง SUV และรถกระบะอเนกประสงค์ นุ่ม..เงียบดอกยางสึกเรียบ ทนทาน ด้วยเทคโนโลยีส่วนผสมเนื้อยางสูตรใหม่ล่าสุด มีด้วยกัน 24 ขนาด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 4,190 บาท
• ยางนิตโตะ รุ่น TERRA GRAPPLER G2 ยาง SUV และกระบะเอนกประสงค์พันธุ์แกร่ง เต็มพลังขับเคลื่อนแบบออฟโรด นุ่ม..เงียบ สบายแบบยางไฮเวย์ ดีไซน์เท่ห์ มั่นใจทุกพื้นผิว มีด้วยกัน 10 ขนาด ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 6,300 บาท
• ยาง KUMHO รุ่น ROAD VENTURE MT51 ยางออฟโรดสำหรับขาลุยตัวจริง เกาะถนนบนทางเรียบ แข็งแกร่งบนทางลุย มั่นใจทุกการควบคุม บทสรุปที่ลงตัวของการขับขี่ มีด้วยกัน 12 ขนาด
• ยาง KUMHO CRUGEN HT51 ยาง SUV และกระบะสายพันธุ์ใหม่ ควบคุมฉับไว ขับขี่มั่นใจบนทุกพื้นผิว คุ้มค่า ทนทาน หน้ายางสึกเรียบตลอดอายุการใช้งาน ด้วยเนื้อยางสูตรใหม่ล่าสุดมีด้วยกัน 5 ขนาด ราคาเริ่มต้นที่ 3,200 บาท
• ยาง KUMHO ESCTA PS91 เทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับโลก ที่สุดของการขับขี่ ด้วยส่วนผสมเนื้อยางสูตรเดียวกับรถ Formula 3 ที่รองรับความเร็วได้สูงถึง 300 km/h ให้คุณมั่นใจต่อการควบคุม บนทุกสภาวะของพื้นถนน มีด้วยกัน 43 ขนาด
นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า แผนการตลาดในปี 2559 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นไปที่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งซึ่งจะให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนรายการแข่งขันรถยนต์รูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างฐานกลุ่มลูกค้าให้ทั่วถึง ทั้งในกรุงเทพฯ และตลาดหัวเมืองใหญ่ ผ่านการแข่งขันรถยนต์รายการชั้นนำต่างๆ อาทิ รายการ TOYO TIRES 3K RACING CAR THAILAND ซึ่งเป็นรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ปัจจุบันมีรถเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 400 คันซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมการสนับสนุนการแข่งขันทั้งในส่วนรายการ “TOYO TIRES 3K ISUZU CROSS COUNTRY” รวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันรายการ DRAG ชั้นนำต่างๆ เช่น “TOYO TIRES R1R DRAG BATTLE” และ “NITTO TIRE KING OF DRAG 2016” ซึ่งการแข่งขันทุกรายการที่บริษัทฯ ให้การสนับสนุนก็จะใช้ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ของบริษัทฯ ในการแข่งขันรถยนต์รุ่นต่างๆ เช่นเดียวกันซึ่งจะสามารถสร้างประสบการณ์ตรงในการใช้ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ของบริษัทฯ รวมถึงการบอกต่อถึงเรื่องประสิทธิภาพและการใช้งานที่ดีเยี่ยมของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นที่ใช้ในการแข่งขันซึ่งเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้เป็นอย่างดี
“ในปีนี้ยาง KUMHO TIRE ยังคงจับมือกับ บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันมวยสากลรายการต่างๆ ร่วมกันตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในตลาดกลุ่มต่างๆ ได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น”
นายอภิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารการตลาดที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีการวางแผนทั้งในส่วนของสื่อ อะโบฟ เดอะ ไลน์ และ บีโลว์ เดอะ ไลน์อย่างครบถ้วนแล้ว จะยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งและคอนเท้นท์มาร์เก็ตติ้งเป็นอันดับหนึ่งเช่นกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทังในเรื่องของไลฟ์สไตล์และการเสพสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัว ทำให้ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเป็นแพล็ทฟอร์มที่สำคัญในปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน
“ในปีนี้นอกจากช่องทางการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิตอลต่างๆ ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำในการทำการตลาดไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์แล้วนั้น บริษัทฯ ยังเตรียมพร้อมเปิดตัวไลน์แอคเคาท์ในส่วนของผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ของบริษัทฯ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการติดต่อและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างการจดจำแบรนด์ให้เป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภคที่ต้องการสินค้ายางรถยนต์นำเข้าคุณภาพและการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม”
ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ “TOYO TIRES” ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดิร์คนใหม่ล่าสุดคือ “Ken Block” ซึ่งจะมาเป็นตัวแทนในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ “TOYO TIRES” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านแฟนคลับ และผู้ติดตามกว่า 350 ล้านคนทั่วโลก
นายอภิชัย กล่าวในตอนท้ายว่า จากแผนการตลาดและกลยุทธ์ต่างๆ ที่บริษัทฯ วางไว้ จึงมั่นใจว่าภาพรวมของบริษัทฯ จะมีการเติบโตและฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ เป็นสัญลักษณ์ของความคุ้มค่า เชื่อถือได้ปลอดภัย และเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้ขับขี่ไปตลอดการเดินทางตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ได้วางไว้สำหรับในปีนี้คือ “T.SIAM BEYOND TIRE”