“สมคิด-ประวิตร” แท็กทีมเยือนรัสเซีย “พาณิชย์” สบช่องเจรจาขายข้าว-ยางเพิ่ม

“สมคิด-ประวิตร” แท็กทีมเยือนรัสเซีย 22-27 ก.พ. หารือขยายการค้าการลงทุน และปูทางก่อน “ประยุทธ์” เดินทางไปเยือน พ.ค.นี้ “พาณิชย์” สบช่อง ดันตั้งคณะกรรมการหารือเพิ่มการค้าการลงทุน และทำเอ็มโอยูเพิ่มนำเข้ายางและข้าวจากไทยเพิ่ม พร้อมจัดทัพนักธุรกิจ 37 รายพบปะกับนักธุรกิจรัสเซีย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 22-27 ก.พ. 2559 นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ จะเดินทางไปเยือนรัสเซีย และเบลารุส เพื่อหารือในการขยายการค้า และการลงทุนระหว่างกัน และยังจะหารือถึงการเตรียมการสำหรับการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในเดือน พ.ค. 2559

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของรัสเซีย คาดว่าจะมีการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-รัสเซีย เพื่อให้มีคณะกรรมการร่วมในระดับสูงเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และจะมีการหารือเพื่อจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าทวิภาคี เพื่อให้มีการเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย โดยเฉพาะยางพารา ข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ ด้วย

ส่วนเบลารุสจะเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของเบลารุส และพบหารือกับประธานคณะกรรมการปิโตรเคมิคอลแห่งชาติพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทค้ายางรายใหญ่ของเบลารุส เพื่อหาทางเพิ่มความร่วมมือในการขยายการค้า

นางอภิรดีกล่าวว่า ในการเดินทางไปครั้งนี้กระทรวงฯ ได้นำภาคเอกชนไทยรายใหญ่และนักธุรกิจไทยที่สนใจตลาดรัสเซียเข้าร่วมกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) รวม 37 บริษัท ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าอาหาร ได้แก่ ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ผักผลไม้สด กระป๋อง และแปรรูป กาแฟ น้ำขิง น้ำผลไม้ ซอสปรุงรส เครื่องแกง กลุ่มสินค้าเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสินค้าเสื้อผ้า กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มสินค้าบริการด้านการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดรัสเซีย โดยมีบริษัทฝ่ายรัสเซียตอบรับเข้าร่วมงานแล้วกว่า 40 ราย

นอกจากนี้ นายสมคิดจะเป็นประธานในการพบหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของรัสเซียแบบ One on One Meeting รวม 10 บริษัท และจะมีการประชุม Thai-Russian Business Roundtable Meeting ซึ่งคาดว่าจะเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายจะสามารถขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้เพิ่มขึ้น

สำหรับรัสเซีย เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของไทยในกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช มีประชากรกว่า 142 ล้านคน ในปี 2558 มีมูลค่าการค้าการค้ารวม 2,355 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70,650 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 50 เนื่องจากความผันผวนของค่าเงินรูเบิล ขณะที่เบลารุสเป็นตลาดขนาดเล็กที่มีความใกล้ชิดทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย มีประชากรประมาณ 9.6 ล้านคน ในปี 2558 มีมูลค่าการค้ารวมกับไทย 83.71 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 7.2