ผู้จัดการรายวัน 350 - WICE มั่นใจธุรกิจลอจิสติกส์คึกคัก กางแผนปี 59 ลุยขยายงานบริหารคลังสินค้า ขนส่งสินค้าในและต่างประเทศ เผยอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้า 3 ราย คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 2 พร้อมเพิ่มพันธมิตรใหม่บุกตลาดจีน หวังรายได้รวม 900 ล้านบาท
นางอารยา คงสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “WICE” ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจลอจิสติกส์ในปี 2559 คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นจากปีก่อนเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเริ่มปรับตัวดีขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม อีกทั้งการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการประเทศต่างๆ เข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนยังเป็นโอกาสให้ความต้องการงานบริการด้านลอจิสติกส์มีเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและบริการด้านต่างๆ ของบริษัทฯ
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจในส่วนของการบริหารจัดการคลังสินค้า งานบริการขนส่งสินค้าในประเทศและขยายฐานลูกค้าในส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบ Door-to-Door ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า 3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/59 นอกจากนี้ยังมีแผนหาพันธมิตรเพิ่มในต่างประเทศ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยเน้นไปที่ประเทศจีนซึ่งต้องการหารายใหม่เพิ่มอีก 1-2 รายเพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น
“เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา WICE ได้เปิดบริการด้านคลังสินค้าให้แก่ลูกค้าที่นำเข้าแผงโซลาร์เซลล์มาจากประเทศจีน เป็นธุรกิจบนพื้นที่ 1.3 หมื่นตารางเมตร สัญญา 1 ปี ลูกค้ามีตลาดหลักส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ WICE มีความถนัดอยู่แล้ว และมีแนวโน้มจะส่งสินค้าออกถึง 3-4 พันตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเรามีโอกาสต่อยอดธุรกิจและเข้าไปรับงานในส่วนนี้เพิ่มเติม ขณะเดียวกันการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการจีนในบางภาคอุตสาหกรรมมายังประเทศไทย เนื่องจากประสบปัญหา Anti-Dumping ก็ถือเป็นโอกาสที่จะเพิ่มลูกค้ารายใหม่ด้วยเช่นกัน” นางอารยากล่าว
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการลงทุนในการก่อสร้างคลังสินค้าอยู่ระหว่างการเลือกซื้อที่ดินแปลงใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ดินที่เคยคิดว่าจะซื้อมีขนาดพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงได้คำนวณขนาดและพื้นที่ตั้งที่เหมาะสมใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวภายในไตรมาส 2/59 และก่อสร้างเสร็จภายในปี 2560 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงสามารถให้บริการงานบริหารจัดการคลังสินค้าได้ตามปกติ โดยใช้การเช่าคลังสินค้าที่มีขนาดและราคาเหมาะสม
นางอารยากล่าวต่อไปถึงเป้าหมายรายได้ปี 2559 ว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2558 หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากงานใหม่ด้านบริหารคลังสินค้า การขยายลานจอด เพิ่มหัวลากหางพ่วง รองรับปริมาณงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ ประกอบกับรายได้จากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เข้ามาช่วยเสริมผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากการขนส่งระหว่างประเทศ 70% และสัดส่วนรายได้จากงานให้บริการพิธีการศุลกากรและขนส่งในประเทศ รวมถึงงานให้บริการจัดการคลังสินค้า 30%