ผู้จัดการรายวัน 360 - “แบรนด์ วีต้า เบอร์รี่” ขยายฐานตลาดเครื่องดื่มผลไม้สกัด เร่งกระตุ้นตลาดรวม 2 พันล้านบาทโตต่อเนื่อง 10% เท่ายอดขาย หลังครองตลาด 82% เทงบฯ 50 ล้านบาทจัดแคมเปญต่อเนื่อง พร้อมดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ 3 ปีซ้อน
นายบุญเลิศ สุขเสรีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มผลไม้สกัด “แบรนด์ วีต้า” เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มผลไม้สกัดในปี 2558 มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 10% โดย “แบรนด์ วีต้า” ยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยสัดส่วน 82% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีประมาณ 80% ขณะที่มียอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 10% ส่วนอันดับสองคือ “สก็อต เพียวเร่” มีสัดส่วนประมาณ 15%
ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดจึงจำเป็นต้องขับเคลื่อนตลาดให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจึงใช้งบประมาณ 50 ล้านบาทในการจัดแคมเปญ “ได้เวลาฟังเสียงดวงตา โดยวีต้าเบอร์รี่” ทั้งยังคงมี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 พร้อมสร้างสรรค์ “น้องตาต้า” เป็นไอคอนในการสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพตา
แคมเปญนี้เป็นแคมเปญต่อเนื่องจากแคมเปญ “ติดจอ 7.2 ชั่วโมง...ดื่มวีต้าเบอร์รี่เลย” ในปี 2558 ซึ่งบริษัทฯ ต้องการสื่อสารและให้ความรู้แก่ผู้บริโภคว่าในยุคที่สื่อดิจิตอลกำลังมีบทบาทสำคัญต่อผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้ไลฟ์สไตล์ประจำวันด้วยการใช้สายตาผ่านหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และสื่อดิจิตอลอื่นๆ เป็นเวลามากกว่า 7.2 ชั่วโมงต่อวัน จำเป็นต้องบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเพสริมเพื่อสุขภาพดวงตา เพื่อป้องกันไม่ให้สายตามีความผิดปกติ หรือเป็นโรคสายตา
“บริษัทฯ ยังคงเน้นสร้างการรับรู้สู่กลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นหลัก โดยจะเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาชุดเสียงจากดวงตา ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.59 เป็นต้นไป นอกจากนั้นยังเน้นใช้สื่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT รวมถึงสื่อนอกบ้านต่างๆ ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้นโดยการเพิ่มงบประมาณเป็น 10% จากปีก่อนที่ยังคงใช้เพียงหลักเดียว โดยในช่วงเดือน มี.ค.จะเริ่มเปิดตัวแคมเปญออนไลน์ชุดใหม่ผ่าน youtube : brandsveta เป็นชุดที่สองหลังประสบความสำเร็จจากแคมเปญเซเลบออนไลน์เมื่อช่วงปลายปี 2558” นายบุญเลิศกล่าว
ทั้งนี้ แคมเปญ “ได้เวลาฟังเสียงดวงตา โดยวีต้าเบอร์รี่” ถือเป็นการขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างยิ่งขึ้น ครอบคลุมทั้งเพศชายและหญิงทุกวัย โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขาย “แบรนด์ วีต้าเบอร์รี่” เพิ่มขึ้นประมาณ 10% โดยยังคงมีสัดส่วนรวมระหว่าง “วีต้าเบอร์รี่” และ “วีต้าพรุ่น” เท่ากันคือ 50:50 คิดเป็นสัดส่วนรายได้รวมของบริษัทฯ ประมาณ 10% รองจากรังนก 30% และซุปไก่สกัด 60%
