ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไทยแอร์เอเชีย” เผยภาวะแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำยังแข่งดุ ส่งผลทำรายได้เพียง 80% ของเป้าหมาย แต่ยังถือเป็นผลกำไรสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงาน เผยปี 59 หวั่นปัจจัยเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนผกผันมากกว่าราคาน้ำมัน เดินหน้าขยายฝูงบินในประเทศและอินเดียเพิ่ม 5 ลำ พร้อมอัดงบฯ โซเชียลมีเดียเพิ่ม 30-40% หวังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2558 ว่า เนื่องจากภาวการณ์แข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำยังคงอยู่ในภาวะรุนแรง ทำให้บริษัทฯ ทำรายได้และผลกำไรได้เพียง 80% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ซึ่งถือเป็นผลประกอบการสูงสุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินงานมา โดยมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้นประมาณ 14-15 ล้านคน ด้วยสัดส่วนเส้นทางบินในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60%
บริษัทฯ มั่นใจว่าในปี 2559 จะสามารถดำเนินงานได้ดีขึ้นทั้งรายได้และผู้โดยสาร เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคงที่ ทั้งทางด้านการเมืองและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล บริษัทฯ จึงมีแผนเพิ่มฝูงบินขึ้นอีก 5 ลำจากปัจจุบันที่มี 50 ลำ โดยจะเน้นเส้นทางบินในประเทศและประเทศอินเดียเพื่อทดแทนเส้นทางบินในประเทศจีนที่ลดลงประมาณ 20% ในปี 2558
“สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปี 2559 ที่น่ากังวลคือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนผกผันซึ่งมีผลทำให้หลายๆ บริษัทในหลายๆ ธุรกิจต้องประสบภาวะขาดทุนในปี 2558 ขณะที่ปัจจัยด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกคาดว่าจะไม่มีการขึ้น-ลง หรือผกผันมากนัก โดยแต่ละปีราคาน้ำมันซึ่งถือเป็นหนึ่งในต้นทุนการบินของไทยแอร์เอเชียมีสัดส่วนประมาณ 36% หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท” นายธรรศพลฐ์กล่าว
ในปี 2559 บริษัทฯ จะเน้นใช้งบประมาณการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้นประมาณ 30-40% เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มผู้โดยสารในประเทศพื้นที่จังหวัดเลย น่าน ลำปาง ลำพูน พะเยา บุรีรัมย์ และอื่นๆ พร้อมยังคงเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงในฐานะสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด
สายการบินไทยแอร์เอเชียเน้นจุดขายสำคัญคือความตรงต่อเวลาซึ่งดำเนินการมากว่า 3 ปี จึงทำให้ปัจจุบันเริ่มมีนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างประเทศหันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีความแตกต่างจากสายการบินต้นทุนต่ำอื่นๆ ที่เน้นการให้บริการเครื่องดื่มและของว่างฟรี, โหลดกระเป๋าฟรีภายใต้น้ำหนักที่กำหนด หรือบริการเลือกที่นั่งได้ตามความต้องการ และอื่นๆ ขณะเดียวกันยังคงมีการจัดแคมเปญและโปรโมชันต่างๆ เพื่อตอบแทนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2558 ว่า เนื่องจากภาวการณ์แข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำยังคงอยู่ในภาวะรุนแรง ทำให้บริษัทฯ ทำรายได้และผลกำไรได้เพียง 80% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ซึ่งถือเป็นผลประกอบการสูงสุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินงานมา โดยมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้นประมาณ 14-15 ล้านคน ด้วยสัดส่วนเส้นทางบินในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60%
บริษัทฯ มั่นใจว่าในปี 2559 จะสามารถดำเนินงานได้ดีขึ้นทั้งรายได้และผู้โดยสาร เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคงที่ ทั้งทางด้านการเมืองและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล บริษัทฯ จึงมีแผนเพิ่มฝูงบินขึ้นอีก 5 ลำจากปัจจุบันที่มี 50 ลำ โดยจะเน้นเส้นทางบินในประเทศและประเทศอินเดียเพื่อทดแทนเส้นทางบินในประเทศจีนที่ลดลงประมาณ 20% ในปี 2558
“สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปี 2559 ที่น่ากังวลคือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนผกผันซึ่งมีผลทำให้หลายๆ บริษัทในหลายๆ ธุรกิจต้องประสบภาวะขาดทุนในปี 2558 ขณะที่ปัจจัยด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกคาดว่าจะไม่มีการขึ้น-ลง หรือผกผันมากนัก โดยแต่ละปีราคาน้ำมันซึ่งถือเป็นหนึ่งในต้นทุนการบินของไทยแอร์เอเชียมีสัดส่วนประมาณ 36% หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท” นายธรรศพลฐ์กล่าว
ในปี 2559 บริษัทฯ จะเน้นใช้งบประมาณการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้นประมาณ 30-40% เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มผู้โดยสารในประเทศพื้นที่จังหวัดเลย น่าน ลำปาง ลำพูน พะเยา บุรีรัมย์ และอื่นๆ พร้อมยังคงเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงในฐานะสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด
สายการบินไทยแอร์เอเชียเน้นจุดขายสำคัญคือความตรงต่อเวลาซึ่งดำเนินการมากว่า 3 ปี จึงทำให้ปัจจุบันเริ่มมีนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างประเทศหันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีความแตกต่างจากสายการบินต้นทุนต่ำอื่นๆ ที่เน้นการให้บริการเครื่องดื่มและของว่างฟรี, โหลดกระเป๋าฟรีภายใต้น้ำหนักที่กำหนด หรือบริการเลือกที่นั่งได้ตามความต้องการ และอื่นๆ ขณะเดียวกันยังคงมีการจัดแคมเปญและโปรโมชันต่างๆ เพื่อตอบแทนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง