AAV ไตรมาส 3/58 กำไรสุทธิ 91.6 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน หลักๆ มาจากราคาเฉลี่ยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ผู้บริหารประกาศพร้อมใช้ “อู่ตะเภา” เป็นฐานปฏิบัติการการบินใหม่ บินตรงสู่หลากหลายเส้นทาง
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ปี 2558 นี้ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่สายการบินไทยแอร์เอเชีย ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีรายได้รวม 7,254.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 174.4 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน หลักๆ มาจากราคาเฉลี่ยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น โดย 9 เดือนแรกปี 2558 มีผลประกอบการรายได้รวมอยู่ที่ 21,873.3 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 1,471.4 ล้านบาท โดย AAV มีกำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) ไตรมาส 3 ปี 2558 และ 9 เดือนแรกของปี 2558 อยู่ที่ 91.6 ล้านบาท และ 804.0 ล้านบาท ตามลำดับ
“แอร์เอเชียสามารถเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้นส่งผลบวกต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยในไตรมาส 3 ขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 3.58 ล้านคน ขณะที่อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) เติบโตได้ 81%”
อย่างไรก็ตาม จากปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินทั้งหมด 44 ลำ และบริษัทเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของการท่องเที่ยวภาคตะวันออก โดยเฉพาะเมืองพัทยา จึงเปิดฐานปฏิบัติการการบินแห่งที่ 5 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา บินตรงสู่ประเทศจีน ที่เมืองหนานหนิง 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และหนานชาง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ AAV เตรียมที่จะขยายตลาดอย่างต่อเนื่องโดยในไตรมาส 4 ปี 2558 โดยเดินหน้าเจาะตลาดท่องเที่ยวลงทุนเมืองพัทยา และภาคตะวันออก ด้วยการเปิดเพิ่มเส้นทางบินใหม่อีก 5 เส้นทาง บินตรงสู่มาเก๊า (1 เที่ยวบินต่อวัน) สิงคโปร์ (1 เที่ยวบินต่อวัน) อุดรธานี (1 เที่ยวบินต่อวัน) เชียงใหม่ (10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) และหาดใหญ่ (4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) โดยจะรับเครื่องบินใหม่เพิ่มอีก 1 ลำ จนครบ 45 ลำ ภายในสิ้นปี 2558 และเชื่อมั่นยอดผู้โดยสารตลอดปี 2558 อยู่ที่ 14.5 ล้านคนตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน