ส่งซิกผลงาน Q4/58 จะเป็นนิวไฮสูงสุดของปีนี้ทั้งในแง่รายได้และกำไร ส่งผลให้ผลงานปี 58 สูงสุดในรอบ 19 ปี และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รายได้เติบโต 5% จากปีก่อน เนื่องจากได้แรงหนุนเต็มๆ จากการเปิดตัว iPhone 6s - iPhone 6s Plus อีกทั้ง COM7 สามารถซื้อสินค้า Apple ได้โดยตรงจาก Apple จึงทำให้ได้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น รวมทั้งแผนการขยายตลาดซ่อมสินค้าผ่าน iCare มีแนวโน้มสดใส “สุระ คณิตทวีกุล” ซีอีโอหนุ่มไฟแรง เผยอยู่ระหว่างเดินหน้าในโครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่องอีก แถมการประมูล 4G ส่งผลบวก COM7 ได้ประโยชน์สูงสุดจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีกว่า 300 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ ประกาศย้ำ! รักษาแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ของตัวแทนการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ในประเทศไทย และในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า และการค้าส่งสินค้าไอที รวมทั้งธุรกิจการค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore By Comseven เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2558 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ ทั้งในแง่ของรายได้ และกำไร เนื่องจากเป็น High Season ธุรกิจมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดขายจาก iPhone 6s - iPhone 6s Plus ซึ่งเริ่มจำหน่ายวันที่ 30 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมาก รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม iPad Pro - Apple TV เข้ามาสนับสนุนผลงานในช่วงสุดท้ายของปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ มียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่องจากการจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาของบริษัทฯ กว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งสินค้าของบริษัทฯ มีครอบคลุมทุกประเภททั้งสินค้าไอที และอุปกรณ์สื่อสาร รวมถึงกลยุทธ์จำหน่ายสินค้าที่มีมาร์จิ้นที่ดี ควบคู่กับการพยายามควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงระบบ Supply chain management โดยใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างรุกบริการซ่อมแซมสินค้าภายใต้ชื่อ ร้าน "iCare" ซึ่งมีการแข่งขันที่ต่ำ และมีมาร์จิ้นสูง เนื่องจากเป็นร้านที่ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนซ่อมแซม สินค้าแบรนด์ Apple ต่างจากเดิมที่สินค้า Apple ต้องส่งซ่อมที่ Operator เท่านั้น อีกทั้ง ร้านที่ได้รับสิทธิเป็นตัวแทนซ่อมแซมมีจำนวนสาขาทั้งหมด 28 แห่ง ซึ่งป็นของ COM7 19 แห่ง และมี Market share สูงถึง 90% ในต่างจังหวัด เป็นโอกาสที่จะช่วยเพิ่มฐานกำไรให้บริษัทฯ ในอนาคต จึงมั่นใจว่า จากปัจจัยเหล่านี้ สนับสนุนให้แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี COM 7 สูงสุดในรอบ19 ปี และเป็นไปตามเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่วางไว้ เติบโต 5% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท
“อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รับอานิสงส์จากการประมูล 4G ซึ่งหากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ COM7 มีความพร้อมอย่างมากในการจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ (Device) ที่รองรับ 4G ทุกกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายใน BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore By Comseven โดย COM7 ได้รับประโยชน์สูงสุดจากช่องทางในการจัดจำหน่ายที่มีกว่า 300 สาขา ผ่าน iStudio,iBeat by Comseven และ BaNANA IT ซึ่งมีสาขาครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในประเทศ "ในช่วงไตรมาส 4/58 ถึงช่วงไตรมาส 1/59 บริษัทฯได้รับผลดีจากการอยู่ในช่วง High Season เนื่องจากมีการออกสินค้าใหม่อย่าง iPhone 6s , iPhone 6s Plus , iPad Pro , Surface Pro 4 ซึ่งปัจจุบันบริษัทสามารถซื้อไอโฟนได้โดยตรงจาก Apple ต่างจากอดีต และผู้ประกอบการรายอื่นที่ยังต้องซื้อผ่านร้าน Operator เนื่องจากบริษัทมียอดจำหน่ายสินค้า Apple สูงมาก สนับสนุนให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นในสินค้ากลุ่ม Apple ที่สูงขึ้น และยังเป็นประโยชน์ต่อการสั่งซื้อสินค้าที่มี จำหน่ายในช่วงแรกในปริมาณที่สูงขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทันที นอกจากนี้ บริษัทมีการวางแผนขยายธุรกิจการซ่อมผ่าน iCare ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ขณะเดียวกันยังได้รับผลดีจากการเปิดประมูล 4G เพราะ COM7 มี Device รองรับ 4G จำหน่ายผ่านร้าน iStudio BananaIT ฯลฯ กว่า 300 สาขาทั่วประเทศ และการที่มีสาขามาก ทำให้ได้เปรียบ มีผู้ให้บริการโทรศัพท์เข้ามาเจรจาขอให้บริษัทจัดขายเครื่องคู่กับซิมของค่ายต่างๆ และได้ส่วนแบ่งรายได้เข้ามาซึ่งยังอยู่ระหว่างเจรจา” นายสุระกล่าว
สำหรับแผนระยะยาว 3-5 ปีนับจากนี้ หลังจากที่บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท นอกจากนิ้ COM7 ยังมีภารกิจที่สำคัญ คือ การเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ และการรักษาแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ด้านยอดขายของตัวแทนการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ในประเทศไทย และในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 10,608.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,179.72 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 429.25 ล้านบาท หรือ 4.21% กำไรสุทธิอยู่ที่ 163.10 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 131.66 ล้าน เพิ่มขึ้น 31.44 ล้านบาท หรือ 23.87%
