แหล่งข่าวจากเอเยนต์ผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดเผยต่อ “ผู้จัดการรายวัน 360 องศา” ว่า ทางห้างฯ เทสโก้ โลตัสได้มีการจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีการโฆษณาเพื่อกระตุ้นยอดขายให้ผู้บริโภคมาจับจ่ายใช้สอยภายในห้าง โดยได้มีการจัดรายการชื่อว่า ศุกร์สุดสุด หลุดโลก ลดทั้งแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จากราคาปกติถึง 30% : ซึ่งมีเงื่อนไขว่าสินค้าเครื่องไฟฟ้าจำหน่ายหมดแล้วหมดเลย ตั้งแต่ 6 โมงเช้ายันเที่ยงคืน และสามารถผ่อนได้ 0% นาน 10 เดือน ซึ่งการจัดรายการโปรโมชั่นลดราคาสินค้าต่ำกว่าทุนครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้ารายกลางและรายเล็กๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเอเยนต์จำหน่ายสินค้าเห็นว่าเป็นการทำลายระบบการค้าของคนไทยให้สูญสลายและไม่สามารถอยู่ในตลาดผู้ขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไปได้ในอนาคต
“เอเยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าท้อใจกับการสู้กับห้างยักษ์ใหญ่ต่างชาติ และบอกได้เลยว่าสินค้าในร้านและสต๊อกสินค้าภายในร้านพังหมดเกือบทั้งระบบ ห้างยักษ์ใหญ่ทำแบบนี้เป็นการทำลายความเชื่อมั่นจากลูกวค้าที่มีอยู่ในร้านค้า เอเยนต์ทุกรายทั่้วประเทศรู้สึกแย่กับการทำแบบนี้ของผู้ค้ายักษ์ใหญ่ และไม่เคยพบการทำตลาดแบบนี้มาก่อน หากกระทรวงพาณิชย์ยังไม่รีบออกมาตรวจสอบหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นเหมือนในอนาคตที่ร้านค้าโชวห่วยในชุมชนต้องล่มสลายไปเพราะมีร้านค้าเซเว่นฯ และเทสโก้ โลตัสไปยึดหัวหาดในชุมชนต่างๆ หมด จนในที่สุดร้านโชวห่วยต้องปิดตัวไปในที่สุด”
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า หากกระทรวงพาณิชย์ไม่เร่งตรวจสอบว่าการลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่ำกว่าทุนของห้างยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ เข้าข่ายเป็นการทุ่มตลาดหรือขายราคาสินค้าต่ำกว่าทุนเพื่อทำลายคู่แข่งขันนั้น เข้าข่ายความผิดหรือไม่ เพราะหากยังเพิกเฉยต่อไปคิดว่าในอนาคตห้างเทสโก้ โลตัสจัดโปรโมชันลดหนักถึง 30-50% ร้านเอเยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายเล็กๆ จะอยู่ต่อไปอย่างไร เป็นการทำลายตลาดทุกสิ่งทุกอย่างของคนไทยให้หมดอนาคตในที่สุด
ขณะนี้เอเยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังหารือเพื่อเตรียมร้องเรียนต่อทางกระทรวงพาณิชย์ให้มีการตรวจสอบการลดราคาการขายต่ำกว่าทุนว่าเป็นการเข้าข่ายความผิดทางการค้าหรือไม่ เพราะการโฆษณาสินค้าลดรายการเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าไปจับจ่ายใช้สอยภายในห้าง ซึ่งผู้เดินทางไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอื่นๆ ทำให้ห้างมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและเอเยนต์เครื่องไฟฟ้าต่างๆ ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้เลย เพราะไม่สามารถลดราคาสินค้าได้เหมือนห้างเทสโก้ โลตัส ที่ยอมเฉือนกำไรและลดราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งใช้งบส่งเสริมการตลาดเข้ามาสนับสนุน
