xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เป็นสักขีพยานเซ็น MOU ไทย-ญี่ปุ่น ขายตู้คอนเทนเนอร์ทำโรงแรม-ร่วมทำแอนิเมชัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เป็นสักขีพยานเซ็นเอ็มโอยูไทย-ญี่ปุ่น ร่วมมือทำธุรกิจส่งตู้คอนเทนเนอร์ทำโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวบูม และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก คาดมูลค่าปีแรก 4 พันล้านบาท อีกรายร่วมทำธุรกิจแอนิเมชันหลังยอมรับฝีมือคนไทย นำร่องร่วมทำการ์ตูนโปรโมตท่องเที่ยว สินค้าไทยและญี่ปุ่น

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในระหว่างการเดินทางโรดโชว์ญี่ปุ่นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กรมฯ ได้เป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความตกลง (MOU) ระหว่างนักธุรกิจของไทยกับนักธุรกิจของญี่ปุ่น โดยได้มีการตกลงร่วมมือทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กที่ทำจากตู้คอนเทนเนอร์ ระหว่างบริษัท สยาม สตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ของไทย กับบริษัท เอสคริท อิงค์ ของญี่ปุ่น และร่วมมือทำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ระหว่างสมาคมแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกไทย กับสมาคมผู้ผลิตดิจิตอลคอนเทนต์ของฟูกูโอกะ ของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ การร่วมมือทำธุรกิจโรงแรมจะเป็นโอกาสในการส่งเสริมให้ธุรกิจการก่อสร้างโรงแรมสำเร็จรูปของไทยในญี่ปุ่นขยายตัวได้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี จากเดิม 4 แสนคน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 9 แสนคนปีนี้ และยังเป็นการรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 2563 ที่จะมีนักกีฬา และนักท่องเที่ยวเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยมูลค่าธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในปีแรกจากการขายตู้คอนเทนเนอร์ทำโรงแรมประมาณ 4 พันตู้ มูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท และคาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป

“ธุรกิจนี้มีโอกาสมาก เพราะเอกชนไทยทำโรงแรมสำเร็จรูป ตกแต่งเรียบร้อย อยากได้แบบไหนสั่งมาได้เลย ทำเสร็จส่งไปถึงญี่ปุ่น ก็เอาไปประกอบเป็นโรงแรมได้ทันที”

นางมาลีกล่าวว่า สำหรับความร่วมมือทำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์จะช่วยส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตดิจิตอลคอนเทนต์เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก เพราะผู้ประกอบการไทยมีฝีมือ ผลิตงานมีคุณภาพ ซึ่งการร่วมมือกับญี่ปุ่นครั้งนี้จะช่วยผลักดันมูลค่าการส่งออกดิจิตอลคอนเทนต์ของไทยขยายตัวได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแอนิเมชันที่มีมูลค่าตลาด 4.2 พันล้านบาท และเป็นการส่งออกเกือบ 1 พันล้านบาท

โดยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นทันที คือ การผลิตการ์ตูนไทย-ญี่ปุ่น ที่จะช่วยแนะนำแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการไทยและญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมและโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกัน และจากนั้นทางฝ่ายญี่ปุ่นจะป้อนงานทั้งด้านการผลิตและการทำคอมพิวเตอร์กราฟิกให้ไทยผลิตต่อไป

นางมาลีกล่าวว่า กรมฯ ยังได้นำคณะนักธุรกิจไทยจำนวน 69 รายจากอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมหนัก ดิจิตอลคอนเทนต์ แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เพื่อพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมงานกว่า 200 ราย คาดว่าจะประสบความสำเร็จในการเจรจาธุรกิจ และช่วยเพิ่มยอดการส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้น โดยตลาดญี่ปุ่นในปี 2559 จะฟื้นตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

นายสุรพล คุณานันทกุล รองผู้อำนวยการบริษัท สยามสตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นมีความต้องการโรงแรมที่พักเป็นจำนวนมาก เพราะการท่องเที่ยวขยายตัว แต่ก็มีปัญหาแรงงานที่ค่าแรงแพง จึงเป็นโอกาสของบริษัท และคาดว่าในอนาคตการนำตู้คอนเทนเนอร์มาทำโรงแรม และอาคารต่างๆ จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และจะทำให้บริษัทส่งออกได้เพิ่มขึ้น

นายโมริชิโระ ชิบูตานิ รองประธาน บริษัท เอสคริท อิงก์ กล่าวว่า สาเหตุที่นำเข้าคอนเทนเนอร์จากสยามสตีลเพราะสินค้ามีคุณภาพดีกว่าคู่แข่งมาก อีกทั้งยังสามารถผลิตได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะนำไปสร้างไมโครโฮเต็ล ที่คันโต ที่อยู่รอบโตเกียว และคันไซ ที่อยู่รอบโอซากา โดยสามารถใช้เวลาก่อสร้างสั้นมาก เพราะออกแบบตกแต่งภายในเสร็จแล้วสามารถนำคอนเทอเนอร์มาวางประกอบกันได้ทันที

นายทาเคชิ  ฮิราตะ ตัวแทนสมาคมผู้ผลิตดิจิตอลคอนเทนต์ของญี่ปุ่น กล่าวว่า ปัจจุบันดิจิตอลคอนเทนต์ และคอมพิวเตอร์กราฟิกของไทยพัฒนาไปมากเทียบเท่าระดับโลก บางสาขาดีกว่าญี่ปุ่นด้วยซ้ำ  การลงนามเอ็มโอยูร่วมกันครั้งนี้ ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมกันผลิตแอนิเมชันเพื่อแนะนำการท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ คาดว่าผลงานน่าจะเผยแพร่ได้ในเร็วๆ นี้ และน่าจะร่วมงานทำงานต่อเนื่องไปอีกราว 3 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น