xs
xsm
sm
md
lg

ก.พลังงานหวั่นโรงไฟฟ้าถ่านหินสะดุดกระทบแผน PDP ดันค่าไฟพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ก.พลังงานยืนยันพร้อมบริหารค่าไฟฟ้าตามแผน PDP 2015 เฉลี่ยตลอดแผน 4.587 บาทต่อหน่วย และจะทยอยขึ้นตามแผนเล็กน้อยเพียง 1.89% ต่อปีระหว่างปี 2558-2579 หวั่นหากเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดไม่เข้าระบบส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น และกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอาจย้ายฐานการผลิตไปเพื่อนบ้านแทน

นายชวลิต พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP 2015 กระทรวงพลังงานได้เน้นการสร้างสมดุลกระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าให้เกิดความมั่นคงในการจัดหาไฟฟ้า ด้วยการกระจายแหล่งเชื้อเพลิง โดยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ และหันไปใช้พลังงานหมุนเวียน และถ่านหินสะอาดเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ดี ผู้ใช้ไฟฟ้ายังมีข้อกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าที่อาจเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้กำหนดว่า แผน PDP 2015 นี้จะคำนึงถึงผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าเป็นหลัก และทำให้ราคาค่าไฟฟ้าต้องไม่แพงเกินไป โดยกระทรวงพลังงานจะบริหารค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดแผน PDP 2015 อยู่ที่ระดับประมาณ 4.587 บาทต่อหน่วย ขณะที่ค่าไฟฟ้าในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.75 บาทต่อหน่วย และคาดว่าค่าไฟฟ้าตามแผน PDP 2015 (ปี 2558-2579) จะเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 1.89%ต่อปี

สำหรับประมาณการค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตามแผน PDP 2015 เบื้องต้นหากอยู่ในสมมติฐาน ที่เกิดการเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ เช่นจากข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พบว่า ในปี 2558 โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดซึ่งมีต้นทุนประมาณ 2.14 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะมาช่วยเฉลี่ยค่าไฟฟ้าไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น จากต้นทุนค่าไฟฟ้าของเชื้อเพลิงอื่นๆ ได้แก่ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ มีต้นทุนประมาณ 3.22 บาทหน่วย พลังงานทดแทนมีต้นทุนประมาณ 5.38 บาทต่อหน่วย

แต่หากตามแผน PDP 2015 กรณีที่ไม่สามารถนำโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนฯ และจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีต้นทุนสูงกว่ามาใช้ทดแทน จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดแผน PDP 2015 เพิ่มขึ้นจาก 4.587 บาทต่อหน่วยมากอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้ ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ต้นทุนค่าไฟฟ้าต้องเพิ่มขึ้น และมีโอกาสที่ต่างประเทศอาจจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น