กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ Top 3 ของโลกหนุนไทยฮับส่งออก เสนอรัฐเพิ่มสิทธิประโยชน์ดึงลงทุน

“กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์” เสนอไทยเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการดึงดูดการลงทุนเพื่อหนุนให้ไทยยังคงเป็นฮับการส่งออกต่อไป “พาณิชย์” เตรียมรวบรวมข้อเสนอชงบอร์ดส่งออกพิจารณา เล็งนำกลุ่มอุตสาหกรรมเข้าพบนายกฯ อีกครั้งในเดือน พ.ย.นี้

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือกับผู้บริหารจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท HGST (Thailand) บริษัท Western Digital และบริษัท Seagate Technology (Thailand) ซึ่งภาคเอกชนได้ให้ข้อมูลว่าประเทศเพื่อนบ้านให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนที่น่าสนใจและเป็นการเฉพาะแต่ละรายอุตสาหกรรมมากกว่า รวมทั้งบางประเทศมีการให้สิทธิประโยชน์ในด้านภาษีที่มากกว่าของไทย ซึ่งไทยจะต้องปรับปรุงแนวทางการให้สิทธิประโยชน์แก่กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อดึงดูดให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในประเทศไทยและใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจในการเชิญชวนให้ภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คงฐานการผลิตในไทยและใช้ไทยเป็นฮับในการส่งออก และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อหาความเป็นไปได้ในการดำเนินการ โดยมีหลักการว่าการดำเนินการใดๆ จะต้องเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ทั้งประเทศไทย และนักลงทุนต่างชาติ

“กรมฯ จะรวบรวมประเด็นข้อเสนอจากภาคเอกชน เสนอให้นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ นำเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาต่อไป”

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 14.9 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย โดยสินค้าสำคัญคือ กลุ่ม Hard-Disk Drive และแผงวงจรไฟฟ้า ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยบริษัทที่มาหารือรายละเอียดในการสนับสนุนอุตสาหกรรมในครั้งนี้เป็น Top 3 ของบริษัทที่ส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศไทย

นางมาลีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2558 ที่ผ่านมา รมว.พาณิชย์ได้นำผู้บริหารจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เข้าพบนายกรัฐมนตรี ซึ่งภาคเอกชนได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การผลิต การส่งออกของอุตสาหกรรม รวมถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการความสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งผลตอบรับออกมาเป็นอย่างดี และภายในเดือน พ.ย.นี้กระทรวงพาณิชย์จะนำผู้บริหารกลุ่มอุตสาหกรรมและภาคบริการต่างๆ เข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง