“แฮปปี้เฟรช” สบช่องว่างเจาะธุรกิจเพิ่มทางเลือก “ซูเปอร์มาร์เกตออนไลน์”

“แฮปปี้เฟรช” ผู้บุกเบิกธุรกิจบริการซูเปอร์มาร์เกตออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจาะตลาดไทยเป็นแห่งที่ 3 รองจากอินโดฯ-มาเลย์เซีย จับมือซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำ 3 แห่ง 2 ห้างดัง เสนอทางเลือกชอปปิ้งสินค้าให้ผู้บริโภคกว่า 1 หมื่นรายการ พร้อมบริการจัดส่งสินค้าในเวลา 1 ชั่วโมง วางเป้าเพิ่มซูเปอร์มาร์เกตพันธมิตรเป็น 13-15 ราย

น.ส.ศิริภา จึงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้เฟรช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บุกเบิกธุรกิจบริการซูเปอร์มาร์เกตออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า “แฮปปี้เฟรช” ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน ต.ค. 57 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย เริ่มเปิดให้บริการที่ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียเมื่อเดือน มี.ค. 57 ล่าสุดเปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีแผนเปิดให้บริการในประเทศไต้หวันภายในปี 2558 ก่อนจะเปิดให้บริการในประเทศฟิลิปปินส์เป็นลำดับต่อไป

จุดเด่นของบริการ “แฮปปี้เฟรช” คือ สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าทั้งอาหารสดและของใช้ต่างๆ ในซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยมีการจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็วภายในเวลา 1 ชั่วโมง ทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในเรื่องการเดินทางและการหาที่จอดรถ ทำให้ผลประกอบการในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียเติบโตในระดับ 2 หลักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับการให้บริการในประเทศไทยเบื้องต้นได้เป็นพันธมิตรกับซูเปอร์มาร์เกต 3 แห่งของห้างสรรพสินค้า 2 ราย คือ “กรูเม่ต์ มาร์เก็ต” และ “โฮมเฟรชมาร์ท” ของเดอะมอลล์กรุ๊ป และ “Get It” ของตั้งฮั่วเส็ง ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 60% ของกรุงเทพฯ และบางส่วนของจังหวัดนนทบุรี ในรัศมี 3-5 กิโลเมตรจากที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าพันธมิตรใน 6 จุดสำคัญคือดิ เอ็มคอวอเทียร์, สยามพารากอน, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ตั้งฮั่วเส็ง บางลำภู และตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี

“ปัจจุบันแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของแฮปปี้เฟรช มีสินค้าอาหารสดและของใช้ต่างๆ ให้ผู้บริโภคเลือกซื้อประมาณ 1 หมื่นรายการ ขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าของซูเปอร์มาร์เกตพันธมิตรแต่ละแห่ง โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ให้บริการเป็น 90% ของพื้นที่กรุงเทพฯ ภายในปี 2558 ก่อนจะเพิ่มพื้นที่บริการในจังหวัดสมุทรปราการเป็นลำดับต่อไป โดยมีเป้าหมายระยะยาวที่จะเป็นพันธมิตรกับซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำให้ได้ 13-15 ราย”

น.ส.ศิริภากล่าวด้วยว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของ “แฮปปี้เฟรช” คือ คนรุ่นใหม่อายุ 25-40 ปีที่มีพฤติกรรมการใช้โชเชียลมีเดียบนโลกออนไลน์ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าประมาณ 1-2 ล้านราย ด้วยเหตุนี้ “แฮปปี้เฟรช” จึงถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซของประเทศไทยเติบโตขึ้นมากกว่าเดิมจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียง 1-2% ของตลาดค้าปลีก ขณะที่ตลาดรวมทั่วโลกมีสัดส่วน 8% ยกเว้นเกาหลีใต้ที่มีสัดส่วนสูงถึง 16%

“สำหรับจุดเด่นของแฮปปี้เฟรชที่มีความแตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นๆ คือ เรามีพนักงานผู้ทำหน้าที่เลือกสินค้าให้ผู้บริโภค หรือ Personal Shopper เป็นจำนวนกว่า 100 คนที่ผ่านการอบรมและมีความรู้ในการเลือกซื้อสินค้าประเภทต่างๆ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับอาหารใหม่ สด ดี มีคุณภาพ เสมือนซื้อด้วยตนเอง โดยผู้ใช้บริการยังสามารถชมขั้นตอนการเลือกซื้อสินค้าและการส่งสินค้าผ่านทางแอปพลิเคชันได้อีกด้วย”

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “แฮปปี้เฟรช” ได้ทั้งระบบแอนดรอยด์ และ IOS หรือ https://happyfresh.com/ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษจัดส่งฟรีเป็นเวลา 1 เดือนหลังจากลงทะเบียนในช่วงเปิดตัวเมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาท หลังจากนั้นจะได้รับสิทธิพิเศษจัดส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าครบ 750 บาท และรับสิทธิค่าจัดส่งราคาพิเศษเพียง 35 บาทเมื่อซื้อสินค้าต่ำกว่า 750 บาทภายในปี 2558 ก่อนที่จะปรับเป็นราคาปกติคือ 80 บาท