“พาณิชย์” ดึงผู้บริหาร “กูเกิล” ติวเข้มผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย ใช้ประโยชน์จากกูเกิลในการค้าขาย พร้อมจัดเวิร์กชอปคุยกันแบบตัวต่อตัว เผยเว็บไซต์ลูกอาลีบาบานัดทำบิสิเนสแมตชิ่งผู้ผลิตไทย สนใจซื้อที่นอนยางพารา ข้าว ผลไม้ และสปา รับลูกรัฐบาลดัน SMEs เข้าสู่ระบบค้าออนไลน์ ผุดโครงการ SOOK เปิดโอกาสให้ขายของได้ง่ายขึ้น
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้อำนวยการสำนักพาณิชย์ดิจิตอล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมสมาร์ทออนไลน์ เอ็กซ์ปอร์ตเตอร์ ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ย. 2558 โดยจะเชิญผู้บริหารจากกูเกิล อิงก์ ที่ดำเนินการเว็บไซต์ www.google.com มาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ของไทยเกี่ยวกับทิศทางการค้าออนไลน์ การใช้ระบบเสิร์จเอนจิ้น การผลักดันให้หน้าเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นไปอยู่หน้าแรกของกูเกิลจากการค้นหา
“ตอนนี้ทางผู้บริหารของกูเกิลได้ตอบรับที่จะเดินทางมาเข้าร่วมงานนี้แล้ว โดยนอกจากจะมาพูดถึงทิศทางการค้าออนไลน์ การใช้ประโยชน์จากกูเกิลในการค้าขายแล้วยังจะมีการจัดเวิร์กชอปให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเชิงลึกได้พบปะกับผู้บริหารกูเกิลแบบตัวต่อตัวด้วย”
ทั้งนี้ ในการจัดงานยังมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญในด้านระบบการจ่ายเงิน การขนส่งสินค้า ซึ่งจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบการชำระเงินค่าสินค้า และระบบการขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง เป็นต้น
สำหรับการจัดงานเบื้องต้น กำหนดไว้ 3 พื้นที่ คือ หาดใหญ่วันที่ 9 พ.ย. อุดรธานี วันที่ 11 พ.ย. และกรุงเทพฯ วันที่ 13 พ.ย. โดยผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมงานดังกล่าว สามารถติดต่อได้ที่สำนักพาณิชย์ดิจิตอล หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ www.thaitrade.com
นอกจากนี้ ล่าสุดกรมฯ ได้รับการติดต่อจากเว็บไซต์ www.juhuasuan.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในเครือของอาลีบาบา ได้ติดต่อผ่านไทยเทรดดอทคอมเพื่อเข้ามาจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (บิสิเนส แมตชิ่ง) กับผู้ประกอบการไทย ในวันที่ 22 ก.ย. 2558 โดยสนใจสินค้าที่นอนทำจากยางพารา ข้าว ผลไม้สดและแปรรูป และผลิตภัณฑ์สปา เพื่อนำไปจำหน่ายในเว็บไซต์ เพราะเคยติดต่อซื้อที่นอนทำจากยางพาราไปจำหน่ายก่อนหน้านี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคชาวจีน
นางลลิดากล่าวว่า การผลักดันเว็บไซต์ไทยเทรดดอตคอมเพื่อให้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ในการค้าขายตามนโยบายของนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้ SMEs และผู้ประกอบการที่ค้าขายออนไลน์ เข้ามาเป็นสมาชิกของไทยเทรดดอทคอมให้เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกผู้ขายและผู้ซื้อจากเดิมกว่า 1 แสนราย แยกเป็นผู้ขาย 1.8 หมื่นราย ผู้ซื้อ 8.8 หมื่นราย เพิ่มเป็น 2 แสนราย มูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าผู้เข้าชมสินค้าในเว็บไซต์จาก 3.2 ล้านราย เพิ่มเป็น 10 ล้านราย
ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะขยายการค้าขายผ่านไทยเทรดดอตคอม โดยทำโครงการ Small Order OK หรือ SOOK ซึ่งเป็นการค้าขายแบบ B2B2C หรือการขายสินค้าในปริมาณที่น้อยลง เช่น 5 หรือ 10 ชิ้น เพื่อซื้อไปใช้หรือนำไปขายทดลองตลาดซึ่งจะทำให้ SMEs มีโอกาสในการขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น และใช้ประโยชน์จากการค้าออนไลน์ได้มากขึ้น เพราะแม้จะสั่งซื้อปริมาณน้อย แต่หากมีคำสั่งซื้อเข้ามาตลอด ก็จะทำให้ยอดสั่งซื้อมากขึ้นได้ โดยต่อไปการซื้อขายจะสามารถสั่งซื้อโดยตัดผ่านบัตรเครดิตได้เลย จากเดิมที่การซื้อสินค้า จะเป็นการเปิด L/C เพราะเป็นการค้าขายแบบ B2B ส่วนการส่งสินค้าก็มีพันธมิตร คือ ดีเอชแอล ที่จะเข้ามาช่วยดำเนินการ ทั้งนี้ เฉพาะยอดซื้อขายที่เป็นคำสั่งซื้อเล็กๆ นี้ ตั้งเป้ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท